คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลย 5 คนไปเที่ยวยิงนก มีหนังสะติ๊กไป 2 อัน พบเจ้าทรัพย์เดินสวนทางมา พวกจำเลยพูด ตรวจ ๆ เป็นทำนองว่าเป็นเจ้าพนักงานจะทำการตรวจค้น จำเลยที่ 1 เป็นคนเข้าตรวจค้น ยึดเอามีดดาบ มีดปลายแหลมและเงิน ค้นได้ก็ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยคนอื่น ๆ รับมาถือไว้ เจ้าทรัพย์ขอมีดและเงินคืน จำเลยที่ 1 ใช้มีดดาบของเจ้าทรัพย์นั้นเองฟันเจ้าทรัพย์ 1 ทีเป็นบาดแผลสาหัส ดังนี้ รูปคดีฟังได้ว่า จำเลยทุกคนสมคบกันทำการชิงทรัพย์ของเจ้าทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์ถึงบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่เป็นผิดฐานปล้น
หนังสะติ๊กซึ่งตามธรรมดาเป็นของสำหรับเด็กยิงอะไรเล่นไม่ใช่ศาสตราวุธ
จำเลยแย่งเอาดาบของเจ้าทรัพย์มาได้ และใช้ดาบนั้นฟันเจ้าทรัพย์ และเอาทรัพย์ไป ไม่นับว่าจำเลยมีศาสตราวุธ ตามความหมายของมาตรา 301.

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลย ๕ คนนี้ กับนายไพบูลย์ ไปเที่ยวยิงนก มีหนังสะติ๊กไป ๒ อัน พบเจ้าทรัพย์ทั้งสองเดินทางสวนมา พวกจำเลยร้องพูดว่า ตรวจ ๆ เป็นทำนองว่าเป็นเจ้าพนักงานจะทำการตรวจค้น เจ้าทรัพย์ทั้งสองจึงหยุดให้ตรวจค้น นายทองดีจำเลยที่ ๑ เป็นคนเข้าตรวจค้น ยึดเอามีดดาบ มีดปลายแหลมและเงิน คนได้ก็ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลยคนอื่น ๆ รับมาถือไว้ นายจะทอเจ้าทรัพย์ขอมีดและเงินคืน นายทองดีจำเลยพูดว่านายจะทอหัวแข็ง แล้วใช้มีดดาบของเจ้าทรัพย์นั้นเองฟันนายจะทอ ๑ ที ถูกสบักซ้ายเป็นบาดแผลสาหัส โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทุกคนนอกจากนายป่วนจำเลยตามฟ้อง จำคุกคนละ ๑๐ ปี ยกฟ้องนายป่วนจำเลย
ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยที่ ๑ มีผิดตามมาตรา ๒๙๙ จำคุก ๔ ปี ปล่อยจำเลยที่ ๓, – ๔, – ๕.
โจทก์ฎีกา แต่จำเลยที่ ๑ หลบหนีเรือนจำ จึงให้จำหน่ายคดีเสีย คงพิจารณาคดีฉะเพาะจำเลยที่ ๓,๔,๕
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามรูปเรื่องพอฟังได้ว่า จำเลยทุกคนสมคบกันทำการชิงทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ และทำร้ายเจ้าทรัพย์ถึงบาดเจ็บสาหัส จำเลยมีหนังสะติ๊ก ถือไป ๒ อัน ซึ่งตามธรรมดาหนังสะติ๊กเป็นของสำหรับเด็กยิงอะไรเล่น ไม่ใช่ศาสตราวุธตาม ก.ม. จำเลยสมคบกันทำการชิงทรัพย์โดยไม่มีศาสตราวุธไป จึงไม่มีผิดฐานปล้นทรัพย์ ตอนที่จำเลยแย่งเอาดาบมาได้และใช้ดาบนั้นฟันเจ้าทรัพย์ ก็ไม่นับว่าจำเลยมีศาสตราวุธตามความหมายของมาตรา ๓๐๑ พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๓,-๔,-๕ มีผิดตามมาตรา ๓๐๐ ตอนสอง ให้จำคุกคนละ ๗ ปี ลดฐานรับสารภาพชั้นสอบสวนคงจำคุกคนละ ๔ ปี ๘ เดือน และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์

Share