คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขับรถรางเมื่อจะผ่านทางแยกไม่ได้ขับให้ช้าลงพอสมควร และไม่ได้ให้สัญญาณเสียก่อนในระยะเวลาพอสมควรที่จะทำให้ผู้ใช้ทางสัญจรไปมาได้ยินล่วงหน้าต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ม.13,32
ถนนสายใหญ่ที่มีถนนซอยตัดมาบรรจบที่ ๆ ถนนสอบสายตัดกันนี้เรียกว่าทางแยก
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลย 12 บาท จำเลยฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถรางเมื่อจะผ่านทางแยก จำเลยมิได้ขับรถรางให้ช้าลงและไม่ให้เสียงเป็นสัญญาณ ทำให้รถรางชนรถยนตร์ของ ม.เสียหาย ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยขับรถเมื่อจะผ่านทางแยกไม่ได้ขับให้ช้าลงพอสมควรและไม่ได้ให้สัญญาณเสียก่อนในระยะเวลาพอสมควรที่จะทำให้ผู้ใช้ทางสัญจรไปมาได้ยินล่วงหน้าได้ พิพากษาให้ปรับจำเลย ๑๒ บาทตาม พ.ร.บ.จราจร ม.๑๓,๓๒,๖๖
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่จำเลยคัดค้านว่าที่เกิดเหตุคือตรงที่ถนนซอยเชตุพนมาทะลุถนนมหาราชนั้นไม่ใช่ทางแยกตามความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.นั้นเห็นว่าเมื่อมีถนนซอยไปจากถนนใหญ่แล้วก็เข้าศัพท์ตามธรรมดาว่าแยกไปทางถนนซอยได้ และตาม ม.๔(๕) คำว่า “ทาง” นั้นย่อมหมายถึงถนนซอยด้วย และเมื่อถนนซอยนั้นแยกมาจากถนนใหญ่ ที่ตรงนั้นก็ต้องเรียกว่าทางแยกด้วย ฎีกาของจำเลยอีกข้อหนึ่งที่ว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถเมื่อจะผ่านทางแยกไปไม่ขับช้าลง และมิให้เสียงสัญญาณแต่นำสืบว่าจำเลยขับรถไม่ช้าไม่เร็วและเหยียบระฆังให้สัญญาณในระยะใกล้เป็นการฟ้องอย่าง ๑ สืบอย่าง ๑ ลงโทษจำเลยตาม ม.๑๙๒ ประมวลวิธีพิจารณาอาญาไม่ได้ และว่ากิริยาที่จำเลยขับรถมานั้นเป็นการเดินรถช้าพอควรตาม ม.๑๓ และได้เหยียบระฆังให้สัญญาณตาม ม.๓๒ แล้วด้วย ในเรื่องนี้ศาลล่างทั้ง ๒ ฟังต้องกันมาว่าจำเลยขับรถเมื่อจะผ่านทางแยก มิได้ขับช้าลงพอสมควรและไม่ได้ให้สัญญาณตามควรข้อเถียงของจำเลยข้างต้นจึงเป็นการเถียงข้อเท็จจริงต้องห้ามพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒

Share