แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โดยปกติการเช่าทรัพย์ไม่ว่าจะใช้ทรัพย์สินนั้นเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อทำการค้า ย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ หากจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างไร ก็ต้องยกขึ้นสู้คดี เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 บัญญัติให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษ ก็ต้องวินิจฉัยคดีตามกฎหมายสามัญ เพราะสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ โดยจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า และโจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องซ้ำจำเลยเช่าอยู่อาศัย โจทก์ไม่ไปเก็บค่าเช่าเอง จำเลยมิได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ การเช่าเป็นการเช่าสามัญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ เมื่อจำเลยรับว่าได้รับการบอกเลิกการเช่าห้องพิพาทจากโจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องออกจากห้องพิพาท
จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยได้ยกความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.๒๕๐๔ ขึ้นต่อสู้แล้ว และพระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นปรับคดีได้ แม้คู่ความจะไม่ได้โต้เถียงกัน
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยมิได้อ้างกฎหมายที่ให้สิทธิพิเศษเพื่อคุ้มครองแก่ผู้เช่าไว้ในคำให้การโดยชัดแจ้ง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัย พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้อ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.๒๕๐๔ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ การเช่าทรัพย์ไม่ว่าจะใช้ทรัพย์สินนั้นเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อทำการค้า โดยปกติย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ หากจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างใด จำเลยก็ต้องยกขึ้นสู้คดี เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๗ บัญญัติให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น เมื่อจำเลยมิได้อ้างก็ต้องวินิจฉัยคดีตามกฎหมายสามัญ เพราะสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้ ข้อที่ว่าศาลมีอำนาจยกพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน ฯ ขึ้นปรับคดีได้เองเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ฯ นั้น พระราชบัญญัตินี้มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย