แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทบันยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ไช้กำลังชกต่อยทำร้ายนานแล้วผู้ไหย่บ้านผู้ทำการตามหน้าที่แม้จะได้ความว่าสถานที่ที่เกิดเหตุหยู่นอกท้องที่ของนายแก้วผู้ไหย่บ้านและนายแก้วจะได้กะทำไนถานเปนเจ้าพนักงานหรือไม่ก็ตามก็ยังคงลงโทสจำเลยตาม ม. 338 ได้.
ย่อยาว
โจทฟ้องและร้องเพิ่มเติมฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยทั้ง ๓ ตาม ม. ๖๓,๗๑,๑๑๙,๑๒๐ และ ๓๓๘.
จำเลยไห้การปติเสธ
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วฟังว่าข้อเท็จจิงไนทางพิจารนาต่างก็มีฟ้องโดยฟ้องโจทบันยายว่า จำเลยทำร้ายและขัดขวางเจ้าพนักงานผู้กะทำการตามหน้าที่ มิได้กล่าวเปนการกะทำแก่ราสดรสามัญธัมดาการอ้าง ม. ๓๓๘ จึงเปนการอ้างลอย ๆ พิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์ไม่เห็นพ้องกับสาลขั้นต้นที่ชี้ขาดว่าลงโทสจำเลยที่ ๑ ตาม ม. ๓๓๘ ไม่ได้ จึงไห้ยกคำพิพากสาสาลชั้นต้น แบะไห้สาลชั้นต้นดำเนินการพิจารนาต่อไป แล้วพิพากสาไหม่ตามรูปความ
จำเลยดีกาว่าตาม ป.ว.อ.ม. ๑๕๘(๒) และ (๕) โจทจะต้องระบุแทนความผิด และบันยายการกะทำผิดตาม ม. ๓๓๘ สาลดีกาเห็นว่าฟ้องโจทระบุไว้ชัดว่า จำเลยที่ ๑ ได้บังอาดไช้กำลังกายชกต่อยทำร้ายนายแก้ว จึงหยู่โจทกล่าวไนฟ้องว่านายแท้วเปนเจ้าพนักงานและกะทำการตามหน้าที่ แต่จุดประสงค์หยู่ที่การฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยที่ ๑ ส่วนทำร้ายร่างกายนานแล้ว การที่โจทเข้าไจยึดคือว่านายแก้วกำลังกะทำหน้าที่โดยชอบด้วยกดหมาย ไนถานเปนเจ้าพนักงานและระบุไนฟ้องนั้น หาทำไห้ฟ้องของโจทเสียไปไม่ และเพื่อความปรากตว่าเวลาทำ+แล้วไม่ได้ทำการไนถานเปนเจ้าพนักงานก็ไม่ทำไห้ข้อเท็ดจิงต่างไปจากข้อเท็ดจิงไนฟ้อง เพราะความสำคันของการฟ้องนี้หยู่ที่การทำร้ายร่างกาย อนึ่งจะว่าโจทไม่ประสงค์ไห้ลงโทสจำเลยไนกรนีนี้ ได้ความว่านายแก้วไม่ได้ทำไปไนถานเจ้าพนักงานก็ไม่ได้ เพราะ+ระบุการทำร้ายต่า+ไว้ไนฟ้องและยังอ้าง ม. ๓๓๘ ไว้ท้ายฟ้องด้วย จึงพิพากสาแก้ไห้สาลชั้นต้นพิจารนาคดีสำหรับจำเลยที่ ๑ ไนข้อทำร้ายร่างกายนายแก้วแล้วพิพากสา ไหม่ตามปกติ.