คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อตามพินัยกัมระบุยกทรัพย์สินสิ่งได้ไห้ผู้รับโดยฉเพาะผู้รับก็มีสิทธิเกี่ยแก่ทรัพย์สินนั้น ๆ ตามพินัยกัมโดยไม่ต้องแบ่งไห้ผู้อื่น , เมื่อพินัยกัมระบุไห้ไช้หนี้ ถ้าผู้รับพินัยกัมไม่ออกไช้หนี้จะปติเสธไม่ยอมรับมรดกเสียก็ได้ไนกรนีที่ผู้รับพินัยกัมยอมรับมรดก ผู้รับพินัยกัมก็ต้องไช้หนี้ , ไนคดีขอแบ่งมรดกการที่จำเลยไห้การแก้ฟ้องโจทว่า โจทยักย้ายทรัพย์ซึ่งเปนของจำเลยตามพินัยกัมและแนบสำเนาพินัยกัมมาพร้อมคำไห้การเช่นนี้ เปนการสแดงชัดว่าจำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์นั้นเปนทรัพย์ที่จำเลยจะได้รับตามพินัยกัม

ย่อยาว

คดีนี้สาลอุธรน์พิพากสายืนตามสาลชั้นต้นที่ไห้แบ่งมรดกนายพันบิดาโจทซึ่งจำเลยเข้าปกครองหยู่ผู้เดียว โดยฟังว่าพินัยกัมที่นายพันทำไว้นั้นถูกต้องตามกดหมาย ไห้แบ่งมรดกดังนี้คือ
๑. ทรัพย์ ๑๘ สิ่งและทรัพย์หมาย ๙-๑๐ แบ่งเปน ๔ ส่วน ได้แก่ทายาท ๔ คนคือนางเล็ก นางโป๊ะ (โจท) นางหรัด(จำเลย) และนางกอง(โจท) ซึ่งเปนทายาทโดยธัมของนายพัน คนละส่วนเท่า ๆ กัน
๒. นาโฉนดที่ ๖๘๕๘ และที่ ๖๘๗๔ ไห้แบ่งตามพินัยกัมคือ โฉนดที่ ๖๘๕๘ แบ่งไห้นางกอง ๑๕ ไร่นอกนั้นเปนของนางหรัด โฉนดที่ ๖๘๗๔ เปนของนางหรัดทั้งแปลงและไห้นางหรัดไช้หนี้เงิน ๑,๙๒๐ บาทแก่เจ้าหนี้นายพันตามพินัยกัม
จำเลยดีกาว่า ทรัพย์หมาย ๔-๒๓-๒๔ คือยุ้งข้าว เรือนและชานตามพินัยกัมยกไห้แก่จำเลยและว่าจำเลยถูกบังคับไห้ไช้หนี้ผู้ตาย
สาลดีกาเห็นว่า ไนคำไห้การของจำเลยมีข้อความว่า โจทยักย้ายเรือนซึ่งเปนของจำเลยตามพินัยกัมและจำเลยได้แนบสำเนาพินัยกัมมาพร้อมคำไห้การ ซึ่งเปนการสแดงชัดว่า จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์หมาย ๔-๒๓-๒๔ เปนทรัพย์ที่จำเลยจะได้รับตามพินัยกัม จึงไม่ควนแบ่งไห้ผู้อื่น
ข้อที่จำเลยถูกบังคับไห้ไช้หนี้ เห็นว่าเมื่อพินัยกัมระบุไห้ไช้หนี้ ไนกรนีที่จำเลยยอมรับมรดกจำเลยก็ต้องยอมไช้หนี้ ถ้าจำเลยไม่ออกไช้หนี้จะปติเสธไม่ยอมรับเสียก็ได้ ดีกาข้อนี้ของจำเลยตกไป จึงพิพากสาแก้สาลล่างฉเพาะว่าไห้ทรัพย์หมาย ๔-๒๓-๒๔ เปนของจำเลยตามพินัยกัม นอกจากที่แก้นี้คงพิพากสายืน

Share