แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนังสือหย่าขาดจากการเปนสามีภริยาโดยสามีเปนผู้ทำหนังสือหย่าและลงลายมือชื่อตนแต่ฝ่ายเดียวย่อมไม่สมบูรณ์ตามกดหมาย
ย่อยาว
โจทฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกของนายจิ๊สมาลีสามีโจทซึ่งตกหยู่แก่จำเลยที่ ๑ ซึ่งเปนมารดาและจำเลยที่ ๒ ซึ่งเปนน้องของนายจิ๊สามีโจท
จำเลยไห้การต่อสู้ว่า โจทไม่มีสินเดิมมาหยู่กิน และเมื่อ ๔ ปีมานี้ โจทกับนายจิ๊ได้หย่าขาดจากสามีภริยากันแล้ว ต่อมานายจิ๊จึงถูกสลากกินแบ่ง โจทจึงไม่มีสิทธิจะได้ส่วนแบ่งสินสมรสและมรดกของนายจิ๊
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาว่าโจทมีสิทธิขอแบ่งสินสมรสและมรดกนายจิ๊ได้ตามกดหมาย
จำเลยที่ ๑ อุธรน์ สาลอุธรน์คงพิพากสาแก้ฉเพาะไห้หักเงินค่าทำสพ ๘๐๐ บาทจากกองมรดกไห้จำเลยที่ ๑ ก่อนแล้วจึงแบ่งมรดกต่อไป นอกนั้นยืน
จำเลยที่ ๑ ดีกา สาลดีกาพิจารนาประเด็นข้อ (๑) ที่ว่านายจิ๊สมาลีทำหนังสือหย่าไห้โจทฝ่ายเดียวจะเปนการหย่าที่ไช้ได้ตามกดหมายหรือไม่นั้น สาลดีกาเห็นว่าแม้ตาม ป.พ.พ.ม.๑๔๙๘ จะมิได้กล่าวไว้โดยตรงว่าสามีภริยาที่หย่ากันนั้นจะต้องลงลายมือชื่อด้วยกันทั้งสองคนก็จิง แต่ก็จะเห็นได้ว่า ถ้าการหย่านั้นมิได้ลงลายมือชื่อสามีภริยาไนหนังสือหย่าด้วยกันแล้วจะถือได้หย่างไรว่าผู้ที่มิได้ลงลายมือชื่อได้ยินยอมและเปนผู้ทำหนังสือหย่าฉบับนั้น ไนกรนีที่สามีภริยาหย่ากันเองเช่นนี้กดหมายบังคับไห้ต้องทำเปนหนังสือ ก็เพื่อไห้เปนหลักถานอันแน่นอน จำเลยจะสืบแต่เพียงว่าการหย่านั้น แม้โจทไม่ได้ลงลายมือชื่อไนหนังสือก็ได้ยินยอมหย่าด้วยนั้น ฟังไม่ได้ว่าได้หย่ากันชอบด้วยกดหมาย จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์