คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห้างหุ้นส่วนสามัญตั้งขึ้นไม่มีกำหนดกาล เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งมีหนังสือมาบอกกล่าวเลิกห้างหุ้นส่วนพร้อมกับเสนอระบุชื่อผู้ชำระบัญชีไปด้วย ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นก็มิได้คัดค้านประการใดยังกลับตอบรับเห็นชอบและยอมตั้งผู้ชำระบัญชีผู้ที่ระบุไปนั้นด้วย เป็นแต่กำหนดเงื่อนไขไว้บางประการเท่านั้นดังนี้นับว่าการเลิกห้างหุ้นส่วนและจัดการชำระบัญชีได้กระทำไปแล้ว ตามกฎหมาย แต่การชำระบัญชีในเรื่องทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจะถูกต้องหรือไม่ย่อมเป็นประเด็นหนึ่งต่างหาก ฉะนั้นผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นจะมาฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนนั้น และตั้งผู้ชำระบัญชีจัดการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนนี้อีกไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่และยังมีคำขออีกมากมายท้ายฟ้อง แต่ตั้งรูปคดีมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ เพราะเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาท ดังนี้ศาลควรวินิจฉัยเพียงว่าการเลิกห้างหุ้นส่วน และการชำระบัญชีเป็นไปตาม ก.ม.หรือไม่เท่านั้น ส่วนทรัพย์ในห้างหุ้นส่วนจะมีเท่าใดเป็นส่วนของใครเท่าใดไม่ควรวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี อ้างเหตุว่าการเลิกห้างและชำระบัญชีที่จำเลยทำไปแล้วไม่ถูกต้องและมีคำขออีกมากมายหลายข้อท้ายคำฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนรายนี้ได้เลิกกันและมีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีโดยชอบแล้ว จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ เงินทุนและกำไรคงเป็นไปตามบัญชีของผู้ชำระบัญชี แต่ได้ให้เอาทรัพย์และสิทธิบางอย่างในห้างหุ้นส่วนออกประมูล ฯลฯแบ่งกัน
จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา คงมีแต่โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาได้มีมติที่ประชุมใหญ่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี อ้างเหตุว่าการเลิกห้างและชำระบัญชีที่จำเลยทำไปแล้วไม่ถูกต้อง และทั้งยังมีคำขออีกมากมายหลายข้อท้ายคำฟ้องแต่โดยเหตุที่โจทก์ตั้งรูปคดีมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ เพราะเสียค่าขึ้นศาลเพียง ๑๕ บาท การที่ศาลล่างวินิจฉัยให้เอาทรัพย์และสิทธิบางอย่างในห้างหุ้นส่วนออกประมูล ฯลฯ แบ่งกันนั้น จึงไม่ถูกต้องแต่ฝ่ายจำเลยก็พอใจมิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยถึงคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลล่าง สำหรับคดีนี้จะวินิจฉัยเพียงว่าการเลิกห้างหุ้นส่วนและการชำระบัญชีเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น ส่วนทรัพย์ในห้างหุ้นส่วนที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาจะมีเท่าใด เป็นส่วนของใครเท่าใดจะไม่วินิจฉัยให้ในชั้นนี้ แล้ววินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนรายนี้ตั้งขึ้นโดยไม่มีกำหนดกาล เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้บอกเลิกแล้วก็นับว่าเป็นการชอบตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๐๕๖ โดยปกติจะต้องมีการชำระบัญชีตามมาตรา ๑๐๖๑ ซึ่งจำเลยก็ได้มีหนังสือบอกเลิกไปยังโจทก์ และระบุนามผู้ชำระบัญชีด้วย โจทก์มิได้คัดค้านอย่างใด กลับมีหนังสือตอบรับเห็นชอบและยอมตั้งพระยาไชยยศสมบัติด้วยเพียงแต่มีเงื่อนไขบางประการเท่านั้นนับว่าการเลิก ห้างหุ้นส่วนและจัดการชำระบัญชีได้กระทำ+ตามกฎหมาย แต่การชำระบัญชีในเรื่องทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจะถูกต้องหรือไม่ ย่อมเป็นอีกประเด็นหนึ่งต่างหากซึ่งศาลยังไม่มีหน้าที่จะต้องวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น
จึงพิพากษากลับให้ยกฎีกาโจทก์แต่ไม่ตัดสิทธิที่โจทก์จะว่ากล่าวในคำขอเรื่องทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนที่ฎีกาขึ้นมานี้ต่อ ไป

Share