คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1904/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจในการบังคับคดีตามใบมอบอำนาจที่กระทำตามแบบพิมพ์ของกองหมายนั้น ย่อมไม่มีอำนาจรับเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่ถ้าปรากฏว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เคยชำระหนี้ บางงวดแก่ทนายความผู้รับมอบอำนาจเล่นนั้น และผู้มอบอำนาจได้เคยแสดงออกว่า รับรู้ถึงการรับเงินนั้น ดังนี้ ย่อมมีเหตุอันควรที่จะทำให้ลูกหนี้ดังกล่าวเชื่อว่าทนายความผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจรับเงินชำระหนี้แทนผู้มอบอำนาจได้ ฉะนั้น ลูกหนี้ผู้ชำระหนี้แก่ทนายความผู้รับมอบอำนาจโดยสุจริตและโดยมีเหตุอันควรเชื่อเช่นนั้น ย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822
(เรื่องใบมอบอำนาจตามแบบพิมพ์นี้ วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2505)

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษา แสดงว่า เจ้าพนักงาน บังคับคดีไม่มีสิทธิขายทอดตลาดบ้าเลขที่ ๒๑๒ ถ้ามิฉะนั้นก็ให้จำเลยที่ ๓ รับเงิน ๔,๓๐๐ บาทแล้วโอนบ้านนี้ให้แก่โจทก์ ถ้าไม่รับบ้านคืน ก็ให้จำเลยที่ ๑ – ๒ ใช้ค่าเสียหาย ๕๐,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้ง ๓ ให้การต่อสู้หลายประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหาย ๒๕,๐๐๐ บาทพร้อมทั้งค่าธรรมเนียม แต่ให้ยกคำขอข้ออื่นที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ และคำขอที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๒-๓ ให้ยกเสีย และให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมแทนจำเลยที่ ๒ – ๓
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ คนเดียวฎีกา
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า จำเลยที่ ๑ จะไม่ยอมรับรู้การชำระหนี้ที่จำเลยที่ ๒ กระทำไปได้หรือไม่ นั้น ว่าคดีนี้จำเลยที่ ๑ กล่าวในฎีกาว่าจำเลยที่ ๒ ในฐานะทนายความ ไม่มีสิทธิที่จะรับเงินจากโจทก์แทนจำเลยที่ ๑ และในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ ๑ ในชั้นบังคับคดี ก็มีหน้าที่นำเจ้าพนักงานไปยึดทรัพย์และไปขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดเท่านั้น หามีอำนาจรับชำระหนี้แล้วสลักหลังเวนคืนสัญญากู้ให้แก่โจทก์ไม่ การรับชำระหนี้ที่จำเลยที่ ๒ กระทำไปจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ ๑ ด้วย ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ในฐานะทนายความว่าต่างจำเลยที่ ๑ จะมีสิทธิรับเงินจากลูกหนี้ของจำเลยที่ ๑ หรือไม่ก็ตาม แต่จำเลยที่ ๒ ได้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ ๑ ให้เป็นตัวแทนในชั้นบังคับคดีอีกด้วย และการเป็นตัวแทนในชั้นบังคับคดี โดยยื่นหนังสือต่อกองหมายตามแบบพิมพ์ของกองหมายซึ่งเรียกว่า “หนังสือมอบอำนาจยึดทรัพย์” หนังสือมอบอำนาจนี้ แม้มีมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้ถือว่า ไม่ได้มอบอำนาจให้รับเงินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระหนี้ในชั้นบังคับคดีด้วยก็ดี ก็ฟังเป็นยุติได้ระหว่างผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจกับกองหมายเท่านั้น คือ ไม่มีอำนาจรับเงินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระไว้แก่กองหมาย หากกองหมายยอมให้รับไป ก็ไม่ผูกพันผู้มอบอำนาจด้วย ส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกซึ่งรวมทั้งลูกหนี้ที่ถูกบังคับคดีด้วยนั้น โจทก์เคยชำระหนี้แก่จำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ แสดงออกว่ารับรู้ด้วยแล้ว โจทก์ก็มีเหตุอันสมควรที่จะเชื่อว่า จำเลยชำระหนี้ต่อมา ก็ชอบที่จะชำระแก่จำเลยที่ ๒ ได้ด้วย จำเลยที่ ๑ เคยแสดงออกว่ารับรู้แล้วจะมาปฏิเสธในตอนหลังเช่นนี้ แม้การนั้นจะไม่อยู่ในขอบอำนาจของจำเลยที่ ๒ ย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๒๒ โดยต้องถือว่าการนั้นอยู่ในอำนาจของจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นตัวแทน ย่อมผูกพันจำเลยที่ ๑ ผู้เป็นตัวการให้ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นบุคคลภายนอก ฯลฯ พิพากษายืน ยกฎีกาของจำเลยที่ ๑

Share