แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเรื่องขอให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนและแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่ ในระหว่างดำเนินคดีนั้น ศาลได้สั่งยึดทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไว้ชั่วคราว ผู้ชำระบัญชีเดิมขอให้ขายที่ดินของห้างหุ้นส่วน โดยอ้างว่า การยึดที่ดินของห้างหุ้นส่วนไว้เฉย ๆ มีแต่ทางสิ้นเปลืองและเสียหายมาก เพราะต้องเสียค่ารักษาและที่สวนยางมีอาณาเขตต์กว้างขวางยากแก่การระวังรักษา ปรากฎว่ามีคนร้ายมาลักตัดยางเป็นนิจ เป็นที่เสียหายแก่สวนยางและผู้เป็นหุ้นส่วน ดังนี้ ศาลมีอำนาจสั่งให้จัดการขายทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนได้.
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้ยึดหรืออายัติทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนโฮห้วง และห้างหุ้นส่วนฮับห้วง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ชำระบัญชีไว้ก่อนคำพิพากษา และขอให้ตั้งผู้จัดการและพิทักษ์ทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๒๕๔,๒๖๔ ศาลจังหวัดภูเก็ตไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยึด และอายัติไว้ ตามคำขอของโจทก์ และจ่าศาลเป็นผู้จัดการทรัพย์ชั่วคราว จำเลยขอให้ขายสวนยาง โจทก์ไม่ยอม ศาลชั้นต้นสั่งให้จัดการขาย ศาลอุทธรณ์แก้ ให้ขายทรัพย์ได้แต่ส่วนที่ไม่มีผู้ร้องขัดทรัพย์
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีในชั้นนี้ เป็นเรื่องขอให้ศาลถอดถอนผู้ชำระบัญชีและแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่ ในระหว่างดำเนินคดีที่กล่าวนี้ ศาลได้สั่งยึดทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไว้ชั่วคราว ฝ่ายจำเลยซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีเดิม ได้ขอให้ขายที่ดินของห้างหุ้นส่วน โดยอ้างว่าการยึดที่ดินของห้างหุ้นส่วนไว้เฉย ๆ มีแต่ทางสิ้นเปลืองและเสียหายมาก เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาเป็นรายเดือน และสวนยางรายนี้มีอาณาเขตต์กว้างขวางยากจะระวังรักษาให้ทั่วถึง ปรากฎว่า มีคนร้ายลักตัดยางเป็นนิจ เป็นที่เสียหายแก่สวน และผู้เป็นหุ้นส่วน แต่ฝ่ายโจทก์ว่าไม่ยินยอมให้ขายสวนในเวลานี้ เพราะหุ้นส่วน ๕ หุ้นที่โอนไปยังไม่เด็ดขาด ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลมีอำนาจสั่งให้จัดการขายทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนได้โดยไม่เป็นการผิดกฎหมาย
พิพากษายืน.