คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่นเขยิบเสาเรือนต้นสุดท้ายริมน้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย 2 ศอก และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องขัดขวางโจทก์ที่จะใช้สิทธิบนเส้นทางเดินต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยรื้อถอนเสาเรือนและสิ่งกีดขวางเปิดทางให้ได้ความกว้าง 1 วา 22 นิ้ว ให้จำเลยทำทางทำสะพานให้เป็นไปตามสภาพเดิม ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยได้ปลูกเรือนปิดกั้นทางเดินอันเป็นทางจำเป็นหรือทางภาระจำยอม และรื้อถอนสพานบางส่วน และรื้อศิลาและท่าน้ำเสีย จึงขอให้จำเลยรื้อเรือนและสิ่งปลูกสร้างกีดกั้นเสียให้หมด ให้จำเลยทำทางและสพานให้เป็นไปตามเดิม ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่นเสาเรือนต้นสุดท้ายริมน้ำเขยิบเข้าไปในที่ของจำเลยเพียง ๒ ศอก และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องขัดขวางในการที่โจทก์จะใช้สิทธิบนเส้นทางเดินต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยรื้อถอนเสาเรือนและสิ่งกีดขวางเปิดทางให้ได้ความกว้าง ๑ วา ๒๒ นิ้ว ให้จำเลยทำสพานให้เป็นไปตามสภาพเดิม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รูปคดีของจำเลยไม่มีปัญหาข้อกฎหมายดังจำเลยกล่าวในฎีกา ส่วนข้อเท็จจริงนั้น ศาลอุทธรณ์แก้ไขศาลชั้นต้นบ้างเท่านั้น เป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อย เป็นการต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๒๔๘
พิพากษายกฎีกาจำเลย.

Share