แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินมีโฉนด ผู้มีชื่อในโฉนดย่อมเป็นเจ้าของที่ดินนั้น ผู้ใดกล่าวอ้างว่าที่ดินนั้นเป็นของตน ย่อมมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าเทพารักษ์ จำเลยฟันไม้ไผ่ของศาลเจ้าไป ๖ ลำและบุกรุกเข้ามาไถและหว่านข้าวในที่ดินของศาลเจ้า ขอให้ขับไล่.
จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตามโฉนด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ามีผู้ให้ที่แก่ศาลเจ้ามีโฉนดมาแต่ พ.ศ.๒๔๘๑ โจทก์ชี้ที่ที่โจทก์ปกครองตามเส้นหมายสีแดง จำเลยชี้ที่ของตนตามเส้นสีเขียว ซึ่งล้ำเข้ามาในหมายสีแดง เจ้าพนักงานได้หมายเขตรูปแผนที่หลังโฉนดของโจทก์โดยเส้นสีเหลือง ซึ่งทับกันพอดีกับเส้นหมายสีแดง ย่อมเป็นการฟังได้ในเบื้องต้นว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ หน้าที่นำสืบจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยพิสูจน์ไม่ได้ว่า ที่พิพาทอยู่ในโฉนดของจำเลยเช่นนี้ จึงต้องพิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยออกจากที่หมายสีแดง.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยมีโฉนดเป็นหลักฐาน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทอยู่ในโฉนดของโจทก์และมิได้อยู่ในโฉนดของจำเลย และโจทก์มีพยานมาแสดงว่าที่พิพาทเป็นของศาลเจ้า หาใช่ของจำเลยไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์