คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภาพถ่ายเอกสาร(ซึ่งถ่ายจากต้นฉบับ) ไม่ใช่ต้นฉบับของเอกสาร จึงต้องห้ามมิให้รับฟัง ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 93
ฟ้องว่าเป็นหุ้นส่วนกันตามหนังสือสัญญาเข้าหุ้นส่วน เมื่อศาลไม่เชื่อว่าเป็นหุ้นส่วนกันตามหนังสือสัญญาหุ้นส่วนนั้น ศาลจะนำพฤติการณ์อื่นซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องมาวินิจฉัยว่ามีหุ้นส่วนกันมิได้เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยทำไม้ ได้ทำเป็นหนังสือสัญญาเข้าหุ้นส่วนต่อกันไว้ ต่อมาจำเลยนำไม้ไปขายเอาเงินเป็นประโยชน์เสียคนเดียว เป็นการละเมิดข้อสัญญาหุ้นส่วน จึงขอให้ศาลสั่งเลิกหุ้นส่วนและชำระบัญชี
จำเลยให้การต่อสู้ว่ามิได้เป็นหุ้นส่วนกัน โจทก์จำเลยเคยเข้าหุ้นส่วนทำไม้มาครั้งหนึ่ง แต่ก็ได้เลิกกันไปแล้ว
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าโจทก์จำเลยมิได้เป็นหุ้นส่วนกัน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าได้มีสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันตามสำเนาภาพถ่ายที่โจทก์อ้าง แต่ฟังตามพฤติการณ์อื่นว่าโจทก์และจำเลยเป็นหุ้นส่วนกัน พิพากษากลับให้เลิกหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๐๖๑
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าโจทก์จำเลยมิได้ทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันดังภาพถ่ายสัญญาที่โจทก์อ้าง ป.วิ.พ.มาตรา ๙๓ ให้ยอมรับฟังได้แต่ต้นฉบับเอกสาร รูปถ่ายเอกสารไม่ใช่ต้นฉบับ จึงต้องห้ามมิให้รับฟัง
ที่ศาลอุทธรณ์นำพฤติการณ์อื่นมาฟังว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกัน เป็นการนำเหตุอื่นซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องมาวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้อง
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share