แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดที่ดินไว้ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามศาลมิให้ยึดหรืออายัดที่ดินนั้นซ้ำอีก
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ จึงไม่เป็นการทำละเมิด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าพ่อตาของจำเลยได้อายัดที่นาของโจทก์ไว้ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ต่อมาจำเลยขอให้ศาลยึดที่นาแปลงนั้นของโจทก์อีก โดยอ้างว่าเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลย ทั้งนี้ โดยจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อที่จะให้โจทก์ได้รับความเสียหายเกินกว่าเหตุ ทำให้โจทก์เสียหายทำนาไม่ได้ ๔ ปี จึงขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าได้ยึดนาพิพาทโดยมีเหตุสมควร มิใช่แกล้งยึด โจทก์ยังคงทำนาพิพาทตลอดมา
ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงบางประการแล้วงดสืบพยาน พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิทางศาลและกระทำโดยสุจริต ไม่เป็นละเมิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยกับที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ค่าทนายศาลชั้นต้นกำหนดสูงไป จึงพิพากษาแก้เฉพาะค่าทนาย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดที่พิพาทไว้แล้ว หามีกฎหมายห้ามศาลมิให้ยึดหรืออายัดซ้ำอีกไม่ จึงไม่เป็นเหตุขัดขวางมิให้จำเลยขอให้ศาลบังคับคดี จำเลยใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ มิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำผิดต่อกฎหมายหรือใช้สิทธิอันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด
พิพากษายืน