แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เล้าไก่ไม่ใช่ที่ซึ่งคนอยู่อาศัยก็จริง แต่อยู่ห่างจากเรือนผู้เสียหายประมาณ 1 เมตร แม้แยกออกไปต่างหากจากตัวเรือนแล้ว ก็ยังอยู่ในที่ดินอันเป็นบริเวณของโรงเรือนซึ่งมีรั้วอยู่ด้วย มิใช่อยู่ในที่ซึ่งเป็นบริเวณต่างหากจากโรงเรือนซึ่งใช้เป็นที่คนอยู่อาศัย จำเลยลักไก่ในเล้าซึ่งอยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัย จึงเป็นการลักทรัพย์ในเคหสถานที่จำเลยได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดมาตรา 335(8) ด้วย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2509).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เวลากลางคืน จำเลยมีมีดเป็นอาวุธพกติดตัวเข้าทำการลักไก่ ๒ ตัว ราคา ๒๔ บาท ในบ้านซึ่งเป็นเคหสถานของพันจ่าอากาศโทสมัย รัฐอาจ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕(๑) (๗) (๘) กับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดมาตรา ๓๓๕(๑) (๘) จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์ว่าเล้าไก่อยู่ข้างบ้าน ไม่ใช่เคหสถาน ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เล้าไก่ไม่ใช่เคหสถาน พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดมาตรา ๓๓๕(๑) จำคุก ๑ ปี นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่าเล้าไก่อยู่ในเขตบ้านมีรั้วล้อมรอบและเล้าไก่อยู่ห่างจากตัวบ้านเพียง ๑ เมตร เล้าไก่นั้นอยู่ในบริเวณของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย จึงเป็นเคหสถาน
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าไก่ที่จำเลยลักไปอยู่ในเล้าห่างบ้านประมาณ ๑ เมตร คือ อยู่ห่างโรงเรือนแต่ภายในเขตรั้วบ้าน ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑(๔) บัญญัติว่า “เคหสถาน หมายความว่า ที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น เรือน โรง เรือ หรือแพ ซึ่งคนอยู่อาศัย และให้หมายความรวมถึงบริเวณของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม” วินิจฉัยว่า เล้าไก่ไม่ใช่ที่ซึ่งคนอยู่อาศัยก็จริง แต่ก็อยู่ห่างจากตัวเรือนผู้เสียหายประมาณ ๑ เมตร แม้จะแยกออกไปต่างหากจากตัวเรือน ก็ยังอยู่ในที่ดินอันเป็นบริเวณของโรงเรือนซึ่งในคดีนี้มีรั้วอยู่ด้วย มิใช่อยู่ในที่ซึ่งเป็นบริเวณต่างหากจากโรงเรือนซึ่งใช้เป็นที่คนอยู่อาศัย จำเลยลักไก่ในเล้าซึ่งอยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัย จึงเป็นการลักทรัพย์ในเคหสถานที่จำเลยได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตามมาตรา ๓๓๕(๘) อีกข้อหนึ่ง พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทุกประการ.