คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ดอกเบี้ยที่จะเอามาทบเป็นเงินต้นได้ ต้องเป็นดอกเบี้ยที่ค้างชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี การที่เอาดอกเบี้ยมาทบต้นตั้งแต่แรกกู้เงินโดยยังไม่ค้างชำระเป็นการต้องห้ามตามกฎหมายมาตรา 655 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จำเลยยอมชำระดอกเบี้ยล่วงหน้าแก่โจทก์ถ้าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่เกินอัตราตามกฎหมาย โจทก์ก็ย่อมเรียกร้องเอาได้ เพราะข้อตกลงนี้ไม่ขัดต่อกฎหมาย ถ้าเกินอัตราตามกฎหมาย ข้อตกลงเรียกดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๑๐,๘๐๐ บาท สัญญาผ่อนชำระเดือนละ ๕๕๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยผ่อนชำระให้โจทก์เพียง ๑,๓๐๐ บาท โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๕ ถึงวันฟ้องเป็นเวลา ๒๑ เดือน ๑๒ วัน ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัดจนถึงวันฟ้องและตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี หากจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระก็ให้จำเลยที่ ๒ ชำระแทน
จำเลยทั้งสองให้การร่วมกันว่า ได้กู้เงินและค้ำประกันหนี้ตามฟ้องของโจทก์ แต่ได้ทำสัญญาเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้กันใหม่ โดยจำเลยที่ ๑ ได้จดทะเบียนจำนองบ้านไว้กับโจทก์ หนี้ตามฟ้องจึงระงับไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ โจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตามหนี้จำนอง หมดสิทธิเรียกร้องหนี้ตามสัญญากู้
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน ๗,๗๐๐ บาท และดอกเบี้ยค้างชำระ ๑,๐๒๙.๗๘ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องต้นเงินที่โจทก์ฎีกาว่าเอาดอกเบี้ย ๑,๘๐๐ บาทเข้าไปรวมกับต้นเงินที่มอบให้จำเลยไป ๙,๐๐๐ บาทนั้น เมื่อโจทก์เบิกความว่ามอบเงินให้จำเลยไป ๙,๐๐๐ บาท ก็ต้องฟังว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ ๙,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยที่จะเอามาทบเป็นเงินต้นได้ต้องเป็นดอกเบี้ยที่ค้างมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี จึงจะตกลงกันให้เอามาทบต้นได้ การที่โจทก์เอาดอกเบี้ยมาทบต้นตั้งแต่แรกกู้เงิน โดยยังไม่ได้ค้างชำระเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๖๕๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงคิดเป็นต้นเงินที่จะให้จำเลยชำระไม่ได้ ดอกเบี้ยจำนวน ๑,๘๐๐ บาทที่จำเลยยอมชำระให้โจทก์นี้ ถ้าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่เกินอัตราตามกฎหมาย โจทก์ย่อมเรียกร้องเอาได้ เพราะข้อตกลงนี้ไม่ขัดต่อกฎหมาย เมื่อคำนวณดูแล้วเป็นดอกเบี้ยถึงร้อยละ ๒๐ เกินอัตราตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗๕ ข้อตกลงเรียกดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น ต้องตัดดอกเบี้ยที่ตกลงให้จำเลยใช้ ๑,๘๐๐ บาทนี้ออก คงเหลือแต่เงินต้น ๙,๐๐๐ บาท จำเลยผ่อนชำระต้นเงินไปแล้ว ๑,๓๐๐ บาท ต้นเงินจึงเหลือ ๗,๗๐๐ บาท พิพากษายืน

Share