แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมฟ้อง เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ในประเด็นเกี่ยวกับข้อนำสืบของโจทก์นั้นได้
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาลจำเลยมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ดังนี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด จำเลยมีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ กู้เงินโจทก์ไป โดยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน กู้ไปแล้วไม่ใช้ให้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสอง
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่าไม่ต้องรับผิด เพราะไม่ได้ค้ำประกันจำเลยที่ ๑ เป็นส่วนตัว ผู้ยืมได้ชำระหนี้ไปบ้างแล้ว โจทก์ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้ผู้กู้ โดยจำเลยที่ ๒ มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จำเลยที่ ๑ และผู้ยืมก็เป็นผู้มีฐานะดี ขอให้เรียกชำระจากผู้ยืมก่อน
ต่อมา ก่อนวันนัดสืบพยาน จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเรื่องที่จำเลยขอเพิ่มเติมนี้ จำเลยเองควรได้ทราบดีแล้ว และควรจะได้แก้ไขคำให้การเสียนานแล้วก่อนวันชี้สองสถาน จึงไม่อนุญาต จำเลยที่ ๒ ยื่นคำแถลงคัดค้านไว้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายทีโจทก์ฎีกาและจำเลยแก้ฎีกาว่า
๑. ในกรณีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมฟ้อง เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ในประเด็นเกี่ยวกับข้อนำสืบของโจทก์นั้นได้ ไม่มีกฎหมายใดห้าม จำเลยที่ ๑ จึงชอบที่จะอุทธรณ์คัดค้านข้อที่ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ ๑ กู้เงินเป็นส่วนตัวนั้นได้
๒. ปรากฏว่าในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาล จำเลยทั้งสองมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๒ จำเลยที่ ๒ ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การในวันที่ ๑๕ เดือนนั้นว่า ที่ผู้จัดการของจำเลยที่ ๒ ทำการค้ำประกันนั้น เกินวัตถุประสงค์ที่จำเลยที่ ๒ จดทะเบียนไว้ จำเลยที่ ๒ ขอปฏิเสธความรับผิด ศาลฎีกาเห็นว่า การดำเนินคดีในวันนัดชี้สองสถานดังกล่าว หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘๓ ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด คดีจึงไม่มีการชี้สองสถาน (อ้างฎีกาที่ ๘๙๕/๒๔๙๕) จำเลยที่ ๒ มีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยานได้ตามมาตรา ๑๗๙, ๑๘๐
เมื่อได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงด้วยแล้ว พิพากษากลับสำหรับจำเลยที่ ๑ ให้บังคับจำเลยที่ ๑ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ ๒ เพิ่มเติมคำให้การ กับคำพิพากษาศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์สำหรับจำเลยที่ ๒ อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การได้ และให้พิจารณาพิพากษาใหม่ในประเด็นที่อ้างในคำให้การเพิ่มเติมนั้น