คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่ถือกัมสิทธิที่ดินตามไบไต่สวนจะไช้สิทธิยันแก่ผู้ซื้อที่ดินจากผู้ถือกัมสิทธิร่วมอีกคนหนึ่งโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทฟ้องขอแบ่งที่ดินตามส่วนที่ซื้อจากนายชุ่มผู้ซึ่งถือกัมสิทธิไนที่ดินตามไบไต่สวนร่วมกับจำเลย จำเลยไม่ยอมแบ่ง จึงขอไห้สาลบังคับและไช้ค่าเสียหาย ๒๐๐ บาท
จำเลยต่อสู้อ้างกัมสิทธิและว่าโจทกับนายชุ่มไม่ได้ซื้อ ขายกันจึงเปนการสมยอมโดยไม่สุจริต กับตัดฟ้องว่าฟ้องโจทเคลือบคลุม
สาลขั้นต้นวินิฉัยว่า ฟ้องโจทไม่เคลือบคลุม แต่เห็นว่านายชุ่มไม่ได้ครอบครองที่รายพิพาท จึงไม่มีสิทธิแต่หย่างได พิพากสายกฟ้องโจท
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์วินิฉัยว่าโจทได้ซื้อที่ดินจากนายชุ่มโดยสุจริตและได้เสียค่าตอบแทนแล้ว และที่ดินซึ่งมีเพียงไบไต่สวนก็จดทเบียน-สิทธิได้ตามประกาสว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ไนเรื่องจดทเบียนบุริมสิทธิ-ทรัพยสิทธิและนิติกัมตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิช พ.ส. ๒๔๗๓ และ ๒๔๗๕ สิทธิของโจทย่อมสมบูรน์ตาม ป.พ.พ.ม. ๑๒๙๙พิพากสากลับไห้แบ่งที่ดินไห้โจทตามส่วนที่มีหยู่ไนไบไต่สวนไห้ยกคำขอไนเรื่องค่าเสียหาย
โจทดีกาว่า ไบไต่สวนมิไช่เปนหนังสือสำคันไนการจดทเบียนตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน ฉะนั้นโจทจึงมิได้กัมสิทธิตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิช มาตรา ๑๒๙๙
สาลดีกาเห็นว่า คดีไม่มีทางไห้เห็นว่า โจทได้รู้หยู่ว่าที่ดินไม่ไช่ของนายชุ่มหรือได้สมยอมกับนายชุ่มอันเปนการไม่สุจริตแต่หย่างได อนึ่งที่ดินที่มีไบไต่สวนนั้นย่อมจะจดทเบียนโอนสิทธิกันได้ตามทบกดหมายที่สาลอุธรน์ไว้ ฉะนั้นจำเลยจะเปนฝ่ายครอบครองมาโดยลำดับ โจทผู้รับโอนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนแล้ว ย่อมได้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๙๙ พิพากสายืนตาม

Share