แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดในเรื่องพาของที่ยังไม่เสียภาษีเข้ามาในพระราชอาณาจักร์นั้นต้องประกอบด้วยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าภาษีจึงจะเป็นผิด ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.219 ในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกข้อหาของโจทก์เสียโดยอาศัยข้อเท็จจริงฎีกาได้แต่ในปัญหาข้อกฎหมาย
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นจีนไม่รู้ภาษาไทยนำสินค้าผ่านด่านที่เบตง ได้จ้างเสมียนคนไทยเขียนรายการสินค้าในใบขนยื่นต่อเจ้าพนักงาน ปรากฎว่าสินค้าบางอย่างมีมากกว่าที่ใบขน โจทก์จึงฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่ากิริยาของจำเลยยังไม่พอฟังว่ามีเจตนาจะปลอมหนังสือและหลีกเลี่ยงค่าภาษี
โจทก์ฎีกา ๒ ข้อ ว่า ๑. พระราชบัญญัตศุลกากรไม่ต้องมีเจตนาทุจจริตเป็นผิดได้ และ ๒. จำเลยมีเจตนาทุจจริตจึงเป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
ศาลฎีกาตัดสินว่า ฎีกาข้อ ๒. เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา และเห็นว่าตามพ.ร.บ. ศุลกากร ม.๒๗ ความผิดฐานฉ้อภาษีของรัฐบาลนั้นจะต้องทำโดยเจตนาเมื่อศาลอุทธรณ์ชี้ขาดในข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะจดเท็จในใบขนแล้วก็ต้องฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฉ้อรัฐบาลจึงพิพากษายืน