คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่ครอบครองที่ดินมีโฉนดของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ถ้ายังมิได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าที่ดินโฉนด ๑๑๖ เนื้อที่ ๖๑ ไร่ โจทก์ซื้อจากนางหวาน นางรอมะ และที่ดินโฉนด ๑๑๙ เนื้อที่ ๓๘ ไร่ ๓ งาน ๘๐ ตารางวา โจทก์ซื้อจากนางหวาน นางรอมะ นายสี่ โดยสุจริต จำเลยโต้แย้งขัดขวาง โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย โดยจำเลยหักล้างถางพงครอบครองเป็นเจ้าของเกิน ๑๐ ปี และต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อไม่สุจริต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยครอบครอง ที่นาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกิน ๑๐ ปี ได้กรรมสิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๘๒ แม้ที่ดินพิพาทอยู่ในโฉนดของโจทก์ เมื่อโจทก์รับโอนมา เจ้าของคนก่อน ๆ ไม่มีกรรมสิทธิเสียแล้ว ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยฟังว่า ที่ดินพิพาท โจทก์ซื้อจากผู้ถือกรรมสิทธิที่มีชื่อแจ้งในโฉนดโดยสุจริต ไม่รู้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครอง โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๙๙

Share