แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด 6 ปี โดยจำเลยมีหน้าที่ปลูกส้มเขียวหวานลงในสวนของโจทก์ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนชะนิดหนึ่ง ซึ่งมิใช่สัญญาเช่าตามธรรมดา ฉะนั้นเมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อสัญญา คือได้ปลูกส้มเขียวหวานลงแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้เช่าสวนต่อไปตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้จำเลยจึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยจัดการจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 172/2488
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด ๖ ปี  โดยมิได้จดทะเบียนการเช่า  จำเลยจึงมีสิทธิเช่าเพียง ๓ ปี  เมื่อสิ้นกำหนด ๓ ปี แล้ว  โจทก์บอกเลิกสัญญา  จำเลยไม่ยอม  จึงขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า  ที่ดินรายนี้เดิมเป็นที่ว่าง โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยทำสวนให้ดีและปลูกส้มเขียวหวานให้เต็ม  ตามสัญญายอมให้จำเลยเก็บผลได้มีกำหนด  ๖ ปี  นับแต่วันเช่า  โจทก์จึงไม่มีอำนาจ  กับให้โจทก์จดทะเบียนการเช่าให้จำเลยต่อไปอีก ๓ ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์  และให้โจทก์จัดการจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานให้จำเลยเช่าต่อไปอีก  ๓  ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  การเช่าสวนรายนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ตกลงให้จำเลยมีหน้าที่ปลูกส้มลงในสวนอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนชะนิดหนึ่ง  ซึ่งมิใช่สัญญาเช่าธรรมดา  เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อสัญญาตอบแทนนี้แล้ว  จำเลยก็ย่อมมีสิทธิจะได้เช่าส่วนต่อไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้  จำเลยจึงฟ้องขอให้บังคับโจทก์จัดการจดทะเบียนการเช่าได้ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่  ๑๗๒/๒๔๘๘
จึงพิพากษายืน  ให้ยกฎีกาโจทก์

