คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การมีไม้แปรรูปที่ผู้อื่นเข้าได้รับอนุญาตให้ทำและแปรรูปได้ โดยยกเว้นไม่ต้องเสียค่าภาคหลวง เพื่อปลูกสร้างบ้านเรือนไว้ในครอบครองนั้น แม้คนจะไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้มีไว้ในครอบครองได้ก็ยังไม่เป็นผิด เพราะได้รับยกเว้นตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 50 พ.ร.บ.ป่าไม้(ฉะบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 13

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีไม้ตะเคียนอันเป็นไม้หวงห้ามและเป็นไม้แปรรูป ๑๑๘ แผ่น เป็นเนื้อไม้ ๔.๑๘ ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การว่า ไม้ของกลางเป็นไม้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังมามีความว่า ไม้ของกลางเป็นของนายลือ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำและแปรรูปไม้ เพื่อปลูกสร้างบ้านเรือน การที่ไม้ของกลางไปตกอยู่ที่บ้านจำเลยก็โดยจำเลย ซึ่งเป็นเวยยาวัจกรณ์วัดปากป่าได้ไปยืมมาทำโรงลิเก ในงานวันปากป่า เพื่อการกุศล ครั้นเสร็จงานแล้วจำเลยยังไม่มีพาหนะไปส่งคืนนายลือ จึงนำมาเก็บไว้ที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ใกล้วัดนั้น
เมื่อได้ความว่า ไม้ของกลางเป็นของนายลือซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ทำและแปรรูปไม้ได้โดยชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๙๑ มาตรา ๓(๑) และตาม พ.ร.บ.ป่าไม้(ฉะบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๓ รวม ๔ ข้อ เป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๔๘ – ๔๙ โดยไม่ต้องขออนูญาตต่อเจ้าพนักงานปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงอีกจำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share