แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ศาลจะสั่งให้ริบสินบนที่ให้แก่กันโดยละเมิดกฎหมายนั้นจะต้องปรากฎในทางพิจารณาว่าสินบนนั้นตกอยู่แก่ใครที่ไหน มิฉะนั้นศาลไม่สั่งริบให้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย ๒ เดือนตาม ม.๑๒๕ ฐานให้สินบนแก่นายสิบตำรวจโท+เป็นเงิน ๓๐ บาท เพื่อให้ปล่อยตัวจำเลย แต่ในข้อที่ขอให้ริบเงิน ๓๐ บาทนั้นให้ยกเสีย
โจทก์ฎีกาว่า ตามฟ้องของโจทก์มีข้อความแสดงอยู่ในตัวเองว่า เงิน ๓๐ บาทนั้นอยู่ในความยึดถือของนายสิบตำรวจโท+แลตาม ม.๑+๑ ศาลมีอำนาจเรียกมาให้สั่งริบได้ แม้จะอยู่ในความยึดถือของผู้ใด
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องโจทก์ที่กล่าวมายังไม่พอจะฟังได้แน่นอนว่าเงินสินบนนั้นอยู่ในความยึดถือของนายสิบตำรวจโท+หรือใครเห็นว่าความประสงค์ของกฎหมายในเรื่องริบทรัพย์ เมื่ออ่านมาตรา ๑๔๑ ประกอบกับ ม.๒๙ แล้ว ทรัพย์ที่จะให้ริบนั้นจะต้องปรากฎในทางพิจารณาว่า ตกอยู่แก่ใครที่ไหนมิฉะนั้นศาลจะไปสั่งให้ริบเอาจากใครที่ไหน จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง