คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยสร้างทำนบปิดกั้นลำห้วยสาธาณะเป็นการปลูกสร้างสิ่งใดลงไปในที่สาธารณประโยชน์ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 17
โจทก์บรรยายฟ้องว่าลำห้วยตามฟ้องเป็นที่จับสัตว์น้ำสาธารณะ และเป็นลำห้วยที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ถือว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนแล้วว่า ลำห้วยตามฟ้องเป็นที่จับสัตว์น้ำตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 4(5)

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์ในความผิดฐานทำลายห้วยสาธารณะ ปลูกสร้างสิ่งใดลงไปในที่สาธารณประโยชน์และขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
จำเลยอุทธรณ์และว่า-ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ขาดอายุความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ปิดกั้นและเสริมสร้างทำนบให้ใหญ่ขึ้นติดต่อกันมาทุกปี การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อเนื่อง คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายการประมงตามโจทก์อ้างเพราะโจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้แน่ชัด และนำสืบให้เห็นว่าลำห้วยตามฟ้องเป็นที่จับสัตว์น้ำซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนแล้วว่า ลำห้วยดังกล่าวเป็นที่จับสัตว์น้ำสาธารณะและเป็นลำห้วยที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๔(๕) ให้คำนิยาม “ที่จับสัตว์น้ำ” ว่าเป็นที่ซึ่งมีน้ำขังหรือไหล เช่น ทะเล แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง บ่อ เป็นต้น บรรดาที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และโจทก์มีพยานนำสืบฟังได้ว่าลำห้วยดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่จำเลยสร้างทำนบปิดกั้นลำห้วย จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.๒๔๙๐
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share