คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าตึกแถว ซึ่งตั้งอยู่(ที่ถนนสำเพ็ง อำเภอสัมพันธ์วงศ์ จังหวัดพระนคร) ในทำเลการค้า ทำการค้าขายผ้าต่างประเทศและในประเทศและผ้าแพร แถวนั้นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียวไม่มีเลย ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า เป็นเรื่องเช่าเพื่อประกอบการค้า ส่วนการที่ผู้เช่าและครอบครัวอยู่อาศัยในสาถนที่เช่าด้วยก็เพียงอยู่เพื่อประกอบการค้าเท่านั้น สถานที่เช่านี้จึงไม่เป็นเคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่ออกจากตึกแถวของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยเช่าเพื่อประโยชน์การค้าและทำเลการค้า หมดอายุสัญญาเช่าแล้ว โจทก์บอกเลิกสัญญา จำเลยยังขัดขืนไม่ยอมออก
จำเลยต่อสู่ว่า ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สถานที่เช่าแห่งนี้เป็นตึกแถว ๑ ห้อง ตั้งอยู่ที่ถนนสำเพ็ง อำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนคร อัตราเช่าตามสัญญาเดือนละ ๒๐๐ บาท โจทก์นำสืบว่าตึกเช่านี้ตั้งอยู่ในทำเลการค้า จำเลยค้าผ้าทั้งขายส่งและขายปลีก กับทำโพยก๊วนด้วยตามใยสำคัญแสดงการจดทะเบียนพาณิชที่จำเลยจดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนพาณิชย์ปรากฏว่า จำเลยขายผ้าต่างประเทศ ไทย และ ผ้าแพร จำเลยเองเบิกความรับว่า ในแถวนั้นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียวไม่มีเลย ดังนี้ ข้อเท็จจริงจึงเป็นอันฟังได้ว่าสถานที่เช่าแห่งนี้อยู่ในทำเลการค้า ทั้งอัตราค่าเช่าก็สูงกว่าการเช่าเพื่ออยู่อาศัยตามปรกติ เจตนาของคู่สัญญาจึงเป็นเรื่องเช่าเพื่อประกอบการค้า ส่วนการที่จำเลยและครอบครัวอาศัยอยู่ในสถานที่เช่าด้วย ก็เพียงอยู่เพื่อประกอบการค้าเท่านั้น สถานที่เช่านี้จึงไม่เป็นเคหะ และไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า ฯลฯ

Share