แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์สินที่จำเลยและผู้ร้องได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยาอันเป็นสินบริคณห์นั้น  เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์ได้  ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเสียก่อน
การที่จำเลยซึ่งเป็นสามีให้การยอมให้โจทก์นำยึดทรัพย์เพื่อใช้หนี้  ต่อมาไม่ถึง 3 เดือน  จำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยามาทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า  ผู้ร้องไม่ใช่ภรรยาของจำเลย  ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่เป็นทรัพย์ที่จัดหาและมีขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้อง  เช่นนี้  ย่อมเป็นการสมยอมกัน จะต้องกันมิให้ทรัพย์พิพาทถูกยึดมาใช้หนี้โจทก์  ฉะนั้น  จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์อย่างใด
ย่อยาว
คดีนี้เนื่องมาจากโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษา  ได้นำยึดที่ดินและเรือนเพื่อเอามาขายทอดตลาด
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่า  ที่ดินและเรือนที่ยึดเป็นของส่วนตัวผู้ร้องคนเดียว  ขอให้ศาลสั่งถอนการยึด
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยกับผู้ร้องเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายทรัพย์พิพาทได้มาระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเป็นสามีภรรยากัน  โจทก์ยึดขายชำระหนี้ได้  จึงให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันมาว่า  ทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์ที่ได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยากันนั้นชอบด้วยทางพิจารณาแล้ว  เมื่อฟังว่าที่พิพาทเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยากัน  เป็นสินบริคณห์ซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย  โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยมีสิทธิยึดทรัพย์ทั้งหมดได้  ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเสียก่อน
ที่ผู้ร้องฎีกาว่า  สัญญาประนีประนอมยอมความรับรองฐานะภรรยาและทรัพย์สินว่าเป็นของผู้ร้องแต่คนเดียว  สัญญานี้ชอบด้วยกฎหมาย  ไม่ใช่ใช้กลฉ้อฉลนั้นเห็นว่า  จำเลยถูกกล่าวหาว่าสมคบกับพวกทำการยักยอกทรัพย์  จะต้องใช้ทรัพย์ที่ยักยอกให้แก่ราชการทหาร  จำเลยให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๐๐  ต่อมาวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๐๐  จำเลยก็ให้การต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาความผิดอาญาฐานยักยอก  ทั้งสองคราวนี้จำเลยให้การยอมให้ทางราชการ คือ โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยซึ่งมีทรัพย์พิพาทรวมอยู่ด้วยเพื่อใช้ชำระหนี้รายที่จำเลยต้องหาว่ายักยอก  ต่อมาวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๐  จำเลยและผู้ร้องก็ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน  มีใจความสำคัญว่า  ผู้ร้องไม่ใช่ภรรยาจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย  ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่เป็นทรัพย์ที่ผู้ร้องจัดหาและมีขึ้นด้วยทรัพย์สินอันเป็นส่วนตัวของผู้ร้อง  สัญญานี้ได้ทำขึ้นหลังจากจำเลยยอมรับใช้หนี้ให้โจทก์ไม่ถึง ๓ เดือน  เห็นได้ชัดว่า  เพื่อสมยอมกันจะป้องกันมิให้ทรัพย์พิพาทถูกยึดมาใช้หนี้โจทก์  ไม่มีผลผูกพันโจทก์  ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

