คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากขายทอดตลาดทรัพย์ของลูกหนี้ ตามคำพิพากษาอย่างเจ้าหนี้ธรรมดา จนศาลมีคำสั่งอนุญาต โดยผู้ร้องไม่โต้แย้งหรืออุทธรณ์นั้น ต้องถือว่าคำสั่งศาลยุติถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องจะมาร้องใหม่ว่าเป็นเจาหนี้บุริมสิทธิพิเศษขอให้ได้รับชำระหนี้อีกไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ เดิมโจทก์ชนะคดีจำเลย ๆ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดห้องแถวของจำเลยปลูกอยู่ในที่ดินของผู้ร้องแล้วขายทอดตลาดได้เงิน ๕,๒๐๐ บาท
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับส่วนเฉลี่ยอย่างเจ้าหนี้ธรรมดา
โจทก์ไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จัดการเฉลี่ยได้
ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องอีกว่า ตามที่ขอรับส่วนเฉลี่ยอย่างเจ้าหนี้สามัญและศาลอนุญาตแล้วนั้น เป็นการคลาดเคลื่อนเพราะหนี้รายนี้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษเหนืออสังหาริมทรัพย์ ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งเดิม แล้วมีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องมีสิทธิเฉลี่ยได้อย่างเจ้าหนี้ธรรมดาดังที่มีคำสั่งไว้เดิม
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องฉบับแรกขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้อย่างเจ้าหนี้ธรรมดา โดยมิได้กล่าวอ้างบุริมสิทธิ์พิเศษเหนือทรัพย์รายนี้ในมูลหนี้ค่าเช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ประการใดเลย จนโจทก์และผู้ร้องได้แถลงตกลงกับให้ผู้ร้องเฉลี่ยได้ในฐานะเจ้าหนี้ธรรมดา และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้จัดการเฉลี่ยตามที่ตกลงกันนี้ได้แล้ว โดยผู้ร้องไม่ได้แย้งหรืออุทธรณ์คำสั่งนั้นแต่อย่างใด คำสั่งนั้นจึงเป็นอันยุติถึงที่สุด ต้องบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งนั้น ผู้ร้องจะมาร้องขอใหม่ว่าเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษให้ได้รับชำระหนี้จากทรัพย์รายนี้ก่อนโจทก์อีกไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของผู้ร้องต่อไป
พิพากษายืน

Share