คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้าน ความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วย ก.ม. ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้บังอาจยื่นคำร้องทุกข์กล่าวคำหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อนายสุข สุระไชย ครูใหญ่ ร.ร.ศรีษะเกษวิทยา โดยกล่าวว่าโจทก์ประพฤติเป็นคนเกะกะทะเลาะวิวาทชกต่อยและตะโกนด่าใคร ๆ ไม่ระมัดระวังมารยาทของครู และด่าหมิ่นประมาทจำเลยต่าง ๆ โดยเจตนาโฆษณาให้ปรากฎแก่บุคคลอื่นกว่าสองคนเป็นเหตุให้โจทก์เสียชื่อเสียงและทำให้คนดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๘๒
จำเลยให้การว่ามิได้เจตนาหมิ่นประมาทโจทก์ ได้ร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาโดยสุภาพ ควรได้รับยกเว้นโทษตาม ม.๒๘๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด ก.ม.อาญา ม.๒๘๒ ปรับ ๒๐๐ บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าโจทก์จำเลยเป็นครูจำเลยได้ร้องทุกข์ต่อครูใหญ่ว่าโจทก์ด่าจำเลยและกล่าวถึงความประพฤติของโจทก์ว่าเป็นคนเกะกะชอบทะเลาะวิวาทชกต่อยและด่าใคร ๆ โดยไม่ระวังมารยาทของครู ขอให้ครูใหญ่ส่งคำร้องของจำเลยไปยังศึกษาธิการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อตั้งกรรมการสอบสวน ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยกล่าวตามคำร้องทุกข์นั้นเป็นเรื่องที่จำเลยเดือดร้อนเนื่องจากโจทก์ซึ่งเป็นครูด้วยกันด่าว่า และที่จำเลยยกพฤติการณ์ความประพฤติโจทก์ขึ้นนั้นก็เพื่อประกอบคำร้องทุกข์จำเลย ตามฟ้องและคำแถลงของโจทก์ไม่ได้คัดค้านความเท็จจริงที่ปรากฎในคำร้องทุกข์ คงติดใจแต่เพียงเรื่องว่าคำร้องทุกข์นั้นได้ถูกแสดงต่อหน้าบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป เห็นว่าคำกล่าวของจำเลยในคำร้องทุกข์นั้นถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในการแสดงความชอบธรรมของตนในการที่จะต่อสู้ป้องกันตนหรือป้องกันผลประโยชน์อันชอบด้วย ก.ม.ตาม ก.ม.อาญา ม.๒๘๓ (๑) จึงยังไม่เป็นผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share