คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอสืบพยานบุคคลว่า ได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ไปแล้วได้ แม้จะไม่มีพยานหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2
จำเลยขอสืบว่า เวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท (แต่ทำสัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท)่ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๙ ต่อปี กำหนดไถ่ถอนภายใน ๑๐ เดือน ดังสัญญาท้ายฟ้อง ครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ไถ่ถอน โจทก์ได้บอกกล่าวแล้ว ดอกเบี้ยที่ค้างเป็นเงิน ๘,๑๖๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๖๘,๑๖๐ บาท เพื่อไถ่ถอน ถ้าจำเลยไม่ไถ่ถอน ก็ขอให้ขายทอดตลาดทรัพย์จำนองเอาเงินชำระหนี้
จำเลยให้การว่า ได้ตกลงกู้เงินโจทก์ ๖๐,๐๐๐ บาท จึงทำสัญญาจำนองกับโจทก์ ทำสัญญาแล้วโจทก์จ่ายเงินให้จำเลยเพียง ๕๐,๐๐๐ บาท ส่วนเงินตามสัญญาจำนองอีก ๑๐,๐๐๐ บาทนั้น โจทก์คิดหักเป็นดอกเบี้ยร้อยละ ๒ ต่อเดือน รวม ๑๐ เดือน ต่อมาจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ไปแล้วรวม ๓๐,๐๐๐ บาท แต่โจทก์ไม่ออกใบรับเงินให้เพราะเป็นดอกเบี้ยเกินอัตรา จำเลยยังค้างชำระเงินโจทก์เพียง ๓๕,๖๓๗ บาท ๕๐ สตางค์ โจทก์ไม่บอกกล่าวครบกำหนดในกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่า ในสัญญาจำนองระบุว่า จำเลยได้รับเงินไปเสร็จสิ้นแล้ว จะนำสืบว่ารับเงินไม่ครบไม่ได้ เพราะเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร ในเรื่องดอกเบี้ยจำเลยก็ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง จึงนำสืบไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยไถ่ถอนจำนองโดยชำระเงินตามฟ้อง มิฉะนั้น ให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยนำสืบในเรื่องเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ตามข้อต่อสู้ได้ เพราะเป็นการนำสืบว่าสัญญาจำนองไม่สมบูรณ์บางส่วน และนำสืบว่าได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ ๓๐,๐๐๐ บาท โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงก็ได้ เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรค ๒ ไม่ห้าม พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัย ที่จำเลยขอสืบว่าได้ชำระดอกเบี้ยแล้ว ๓๐,๐๐๐ บาทนั้น แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง ก็สืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรค ๒ เพราะมาตรานี้หมายเฉพาะการชำระต้นเงินกู้ ดังฎีกาที่ ๒๔๓/๒๕๐๓ ส่วนที่จำเลยขอสืบว่าเวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง ๕๐,๐๐๐ บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย ๑๐,๐๐๐ บาท ก็นำพยานบุคคลมาสืบได้ เพราะไม่ใช่การสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาจำนองอันเป็นหนังสืออันขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ ข้อต่อสู้ของจำเลยมีความหมายว่า จำเลยได้รับเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท เต็มตามสัญญา แต่ต้องหักใช้โจทก์เป็นดอกเบี้ยล่วงหน้าเสีย ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน พิพากษายืน

Share