แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การต้มกลั่นแอลกอฮอล์ ซึ่งถ้าเติมน้ำเข้าดื่มกินมึนเมาได้อย่างสุรา และต้มโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานย่อมเป็นผิดตามกฏหมายสุราผู้ที่สมคบเกี่ยวข้องกับการนี้ได้ชื่อว่าเป็น ตัวการด้วย.
ย่อยาว
ได้ความว่าเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์และตำรวจจับจำเลยได้พร้อมกับเครื่องต้มกลั่นสุราเถื่อนและสุราเถื่อนเมื่อเข้าไป จับจำเลยทั้ง ๒ อยู่ในห้องต้มกลั่น จำเลยที่ ๑ กำลังเทน้ำจากขวดลงในปีบ จำเลยที่ ๒ กำลังเขี่ยถ่ายอยู่ที่เตา แอลกอฮอล์ที่จับได้มีแรงแอลกอฮอล์ ๒๐.๘๐ ดีกรีบ้าง ๘๐.๕๐ ดีกรีบ้าง ๗๘.๑๐ ดีกรีบ้าง โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ นายหว่างจำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่าได้กลั่นแอลกอฮอล์ มิได้เจตนาต้มกลั่นสุรา.
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าของกลางเป็นสุรา และเครื่องใช้ในการต้มกลั่นสุราพิพากษาว่าจำเลยผิดต่อพระราชบัญญัติภาษีชั้นในมาตรา ๓๘ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๖๐ มาตรา ๑,๒,๓ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๖๗ มาตรา ๒,๓,๔ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๖ มาตรา ๗,๘.
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยที่ ๒ ต้มกลั่นแอลกอฮอล์มิได้เจตนาให้เป็นสุรา จะลงโทษตามข้อหาไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ ๑ เมื่อการกระทำของจำเลยที่ ๒ ไม่เป็นผิด ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์.
โจทก์ฏีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วัตถุที่จำเลยที่ ๒ ต้มกลั่นเป็นสุราเถื่อน เพราะสามารถดื่มกินได้เช่นสุราจำเลยที่ ๒ ให้การเป็นพะยานตนเองก็กล่าวว่า แอลกอฮอล์ถ้าเติมน้ำเข้าก็ดื่มกินมึนเมาได้อย่างสุรา เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ต้มกลั่นสุราเถื่อนแล้ว เช่นนี้แอลกอฮอล์ของจำเลยที่ ๒ ซึ่งสามารถดื่มกินได้เช่นสุราย่อมผิดกฏหมาย เมื่อการต้มแอลกอฮอล์ดุจคำจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้ว จำเลยก็ต้องมีความผิดตามกฏหมายสุรา คดีส่วนตัวจำเลยที่ ๑ ได้ความว่า เกี่ยวข้องกับการต้มกลั่นรายนี้ ได้ชื่อว่าสมคบกันย่อมเป็นตัวการด้วยกัน จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น