แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จำเลยจะอ้างเหตุป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ให้พ้นผิดหาได้ไม่แต่ศาลอาจใช้ดุลยพินิจวางโทษจำเลยในสถานเบาได้
ในการวิวาทต่อสู้กันอาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายยาวทั้งด้ามทั้งตัวเพียง 1 คืบเศษ และบาดแผลซึ่งผู้เสียหายถูกแทงที่สำคัญอาจถึงตายได้คงมีแผลเดียวดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 256 (8) เท่านั้นหาใช่ผิดตาม ม. 249-60 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพกแทงผู้เสียหายมีบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัสโดยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายแต่หากมีราษฎรเข้าขัดขวางผู้เสียหายจึงไม่ถูกแทงจนถึงตาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๕๖,๒๔๙,๖๐
จำเลยให้การรับว่าใช้มีดแทงจริงแต่เพื่อป้องกันตัว
ศาลฎีกาเชื่อว่าเป็นเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกัน เมื่อเป็นเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันจำเลยจะยกเหตุป้องกันตัวเป็นข้อให้พ้นผิดหาได้ไม่ แต่ศาลอาจใช้ดุลยพินิจวางโทษจำเลยในสถานเบาโดยพิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น
การกระทำของจำเลยแก่ผู้เสียหายเป็นความผิดฐานประทุษร้ายแก่ร่างกายอย่างสาหัสนั้นฟังได้อย่างไม่มีข้อสงสัย และข้อเท็จจริงดังได้วินิจฉัยรับฟังมาแล้วว่าการทำร้ายกันนี้เกิดจากความสมัครใ่จวิวาทต่อสู้กันต่างฝ่ายย่อมฉวยโอกาสทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง การใช้มีดแทงเข้าปะทะพัลวันทำร้ายซึ่งกันและกันนั้น เป็นการยากจะยับยั้งใช้มีดแทงให้หนักเบาแค่ใหนตามประสงค์ ย่อมมีการผิดพลาดกระทำหนักเบาไปบ้างโดยไม่เจตนา อาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายในคดีนี้ก็มีขนาดยาวทั้งด้ามทั้งตัวเพียง ๑ คืบเศษ นับว่าเป็นอาวุธมีดขนาดย่อมซึ่งเห็นไม่ได้ว่าจะยังผลให้ผู้ถูกแทงเป็นอัตรายถึงตายได้โดยธรรมดา ความผิดของจำเลยยังไม่ต้องด้วย ก.ม.อาญา ม. ๒๔๙,๖๐ ฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
จึงพิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. ๒๕๖ (๘) ให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๒ ปี