คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินในหน้าที่ของตน+ไปเป็นจำนวนหมื่น กว่าบาท ปรากฎว่าจำเลย+โอกาศจะยักยอกเงินได้มากกว่านี้แต่จำเลยไม่เอาไปและจำเลยรับราชการได้รับบำนาญและทางราชการเรียกให้จำเลยกลับเข้าทำราชการอีก จำเลยจึงมายักยอกเงินรายนี้ ศาลฎีกาถือว่าเป็นเหตุควรปราณีลดโทษให้จำเลย ตาม ม.59 แห่งกฎหมายอาญา
อ้างฎีกาที่ 271/2473

ย่อยาว

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งหัวหน้าแผนกคลัง ประจำสำนักพระราชวังได้ยักยอกเงินซึ่งอยู่ในหน้าที่ไปเป็นจำนวน ๑๖,๘๒๗ บาท ๔๕ สตางค์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกจำเลยต้องกันมากำหนด ๖ ปี ตาม ม. ๑๓๑
ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อจำเลยทราบว่าตนจะต้องถูกออกจากราชการแล้ว จำเลยมีโอกาศจะเอาเงินงบประมาณแผ่นดินในตู้เซฟคลังในกับเงินทดรองในตู้เซฟห้องจำเลยซึ่งมีเจ้าพนักงานอื่นรับผิดชอบร่วมกับจำเลยด้วย จำเลยไม่เอาไป เป็นเหตุควรกรุณาจำเลยอยู่บ้าง ประกอบทั้งคุณความดีที่จำเลยได้รับราชการมาตั้ง ๓๐ ปี ไม่ปรากฎความเสียหาย ออกจากราชการไปครั้งหนึ่งก็ได้รับบำนาญ ภายหลังทางการจึงเรียกจำเลยมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกคลังอีกควรกรุณาลดโทษฐานปราณีแก่จำเลย ตามนัยฎีกาที่ ๒๗๑/๒๔๗๓ จึงให้ลดโทษจำเลยตาม ม.๕๙ ลง ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลย ๔ ปี

Share