คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชายพบภริยาของตนกำลังร่วมประเวณีทำชู้กับชายอื่นจึงฆ่าภริยาและชายชู้ตายทั้งสองคนนั้นทันทีเช่นนี้ ถือว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียง พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษ

ย่อยาว

คดีได้ความตามข้อเท็จจริงว่าคืนวันเกิดเหตุจำเลยไปอาบน้ำเพื่อทำงาน ครั้นกลับมาไม่พบภรรยาได้เที่ยวตามหา ไปพบภรรยาตนกำลังนอนร่วมประเวณีกับผู้ตายในมุ้ง จึงคว้ามีดที่วางอยู่ปลายตีนมุ้งแล้วโถมเข้าคร่อมผู้ตายทั้งสองจนมุ้งชายคลุมผู้ตายทั้งสองไว้ แล้วจำเลยก็แทงด้วยมีดไม่เลือก จนภรรยาและชายชู้ถึงแก่ความตายทั้งสองคน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า การที่จำเลยฆ่าชายชู้ถึงตายนั้นเป็นการป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษตามกฎหมายอาญา ม.๕๐ แต่การที่จำเลยฆ่าภรรยาถึงตายนั้นหาได้รับความยกเว้นตามมาตราข้างต้นนั้นไม่ จำเลยต้องมีผิดตามม.๒๔๙ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษฐานยั่วโทษะตามมาตรา ๕๕ อีกกึ่งหนึ่งแลลดฐานปราณีโดยรับสารภาพตาม ม.๕๙อีกกึ่งหนี่งคงจำคุก ๓ ปี ๙ เดือน
ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่ภรรยานอกใจสามีโดยไปกระทำชู้ด้วยผู้อื่น ย่อมแสดงให้เห็นว่าภรรยาได้ร่วมมือกับชายชู้ทำลายเกียรติยศของสามี การที่ภรรยาทำชู้ย่อมถือกันว่าเป็นการเสื่อมเสียเกียรติยศของชายอย่างร้ายแรง และการทำชู้ของภรรยานั้นจะสำเร็จได้ก็ต้องมีฝ่ายชายชู้มาร่วมมือด้วย ฉะนั้นทั้งชายชู้และภรรยาต่างได้ชื่อว่าก่อการทำชู้ขึ้น เป็นการเสื่อมเสียเกียรติยศของชายผู้สามี เมื่อจำเลยฆ่าผู้ตามทั้งสองตายในขณะร่วมประเวณีกันอยู่ จึงไม่มีโทษตามมาตรา ๕๐ เพราะได้ชื่อว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศพอสมควรแก่เหตุให้ปล่อยจำเลยไป

Share