คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญา ละเมิด เดิรรถรับส่งคนโดยสาน การที่ห้ามสิทธิของสาธารณชนที่มีอยู่แล้วจะต้องบัญญัติเป็นกฎหมายหรือได้รับพระบรมราชานุญาติเป็นพิเศษ ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เดิรรถรับส่งคนโดยสานในถนนหลวงไม่มีอำนาจรจะหวงกันสิทธิของสาธารณชนที่จะใช้รถเดิรบนถนนนั้นได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.4

ย่อยาว

ได้ความว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำสัญญากับ ข.ผู้เป็นหุ้นส่วนแลผู้แทนของโจทก์ อนุญาตให้โจทก์ทำทางเกวียนซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์ต่อจากถนนท่าแฉลบของกรมทางที่บ้านหัวหินไปบางกะจะตลอดถึงท่าใหม่ตามแผนที่ท้ายสัญญาให้เป็นถนนเดิรรถรับส่งคนโดยสาน ต่อมาจำเลยนำรถยนตร์มาเดิรรับส่งคนโดยสายในทางนี้บ้าง โจทก์จึงขอให้ห้ามแลเรียกค่าเสียหาย
ศาลเดิมตัดสินห้ามไม่ให้นายเหลี่ยมหรือกั๋ก นายเสกนางสาวสนานเดิรรถรับคนโดยสานต่อไป แลให้ใช้ค่าเสียหายแต่ยกฟ้องคดีส่วนตัวนายเหน็บ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจเดิรรถโดยสิทธิขาดแต่ผู้เดียว จึงตัดสินแก้ให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้ง ๓ สำนวน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่า คดีฉะเพาะตัวนายเหน็บจำเลยต้องด้วยบทห้ามตามพ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๔๖๑ ม.๔ เพราะศาลอุทธรณ์ชี้ขาดในข้อเท็จจริงต้องกับศาลเดิมว่า นายเหน็บได้ขอแลรับอนุญาตเดิรรถโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วโจทก์ฎีกาไม่ได้
คดีส่วนตัวนายเหลี่ยมหรือกั๊ก นายเสก นางสาวสนานจำเลยนั้น กรรมการเห็นว่า ถนนที่โจทก์ทำขึ้นนี้เดิมเป็นทางเกวียนหลวงสำหรับสาธารณะประโยชน์อยู่ก่อนแล้ว ถึงแม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำสัญญาให้โจทก์ทำถนนเดิรรถรับคนโดยสานได้ก็ดี ก็ไม่ตัดสิทธิของสาธารณะชนที่จะใช้เดิรถนนรายนี้ได้ เพราะการที่จะห้ามสิทธิของสาธารณชนที่มีอยู่แล้ว จะต้องบัญญัติเป็นกฎหมายหรือได้รับพระบรมราชานุญาตให้สิทธิเป็นพิเศษ จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์

Share