แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างเหมา สร้างสุขศาลาจากจำเลย ซึ่งเป็นสาธารณสุขจังหวัด โจทก์แถลงยืนยันต่อศาลเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัว แต่ตามคำบรรยายฟ้องและคำพยานโจทก์ได้ความชัดเจนว่าจำเลยทำสัญญาจ้างเหมาโจทก์ทำสุขศาลานั้นจำเลยเป็น่เพียงตัวแทนของกรมสาธารณสุขเท่านั้น ดังนี้จำเลยจึงหาต้องรับผิดชอบเป็นส่วนตัวไม่ ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยในตำแหน่งสาธารณสุขจังหวัดกะบี่ ได้ตกลงทำสัญญาจ้างเหมาโจทก์ ให้ทำการก่อสร้างสุขศาลาชั้น ๒ ที่ตำบลเหนือคลอง โจทก์ทำการก่อสร้างเสร็จตามสัญญา และส่งมอบให้จำเลยผิดสัญญา ไม่จ่ายเงินค่าจ้างเป็นเงิน ๕๘๒ บาท จึงขอให้จำเลยใช้พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงต้องยึดเงิน ๕๘๒ บาทไว้เป็นค่าปรับ
ก่อนวันสืบพยาน จำเลยต้องขอเพิ่มเติมคำให้การคัดค้าน แต่ศาลสังอนุญาต สืบพยานโจทก์ ๒ ปากแล้วสั่งงดสืบพยาน พิพากษายกฟ้อง โดยว่าโจทก์จะฟ้องจำเลยให้รับผิดเป็นส่วนตัวไม่ได้ เพราะการปลูกสร้างสุขศาลานี้เป็นทางราชการของกรมสาธารณสุข ซึ่งเป็นตัวการ
โจทก์-อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามทโจทก์แถลงยืนยันต่อศาลเป็นเรื่องโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัว แต่คามคำบรรยายฟ้องและคำพยานโจทก์ได้ความชัดว่า จำเลยทำสัญญาลูกจ้างเหมาโจทก์ทำสุขศาลานั้น จำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนของกรมสาธารณสุขเท่านั้น จำเลยจึงหาต้องรับผิดชอบเป็นส่วนตัวไม่ คงพิพากษายืน