แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญากู้ตามที่จำเลยขอดูพ้นกำหนดที่ศาลสั่งและพ้นกำหนดวันยื่นคำให้การของจำเลย และจำเลยได้ยื่นคำให้การหลังจากโจทก์ส่งเอกสารต่อศาล 2 วัน ดังนี้เป็นพฤตติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และจำเลยได้แจ้งถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 199
ย่อยาว
คดีนี้ โจทย์ฟ้องเรียกต้นเงินกู้ ๓,๐๐๐ บาทตามหนังสือสัญญากู้ลงวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๓ พร้อมทั้งดอกเบี้ย
วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ จำเลยได้รับหมายเรียกกับสำเนาคำฟ้องกำหนดให้จำเลย ทำคำให้การแก้คดียื่นต่อศาลภายใน ๘ วัน วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้ว่า สัญญานั้นปลอมทั้งฉบับ ศาลสั่งให้นัดพร้อมกันวันที่ ๕ มีนาคม ศาลสั่งว่าจำเลยยื่นคำให้การเกิน ๘ วันและศาลมิได้สั่งยืดเวลายื่นคำให้การ จึงไม่รับเป็นคำให้การวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๙๖ จำเลยยื่นคำแถลงโต้แย้งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลก็มีคำสั่งว่า ” สำเนาให้โจทก์แล้วนัดพร้อม ” ทั้งนี้จำเลยถือว่าศาลรับเป็นคำให้การและได้ยืดเวลาให้โดยปริยาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๔๗,๑๙๙, จะมาขอรับผลแห่งการปฏิบัติชอบของตนไม่ได้ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยจะต้องยื่นคำให้การในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ เป็นอย่างช้า แต่ก่อนนั้นจำเลยได้ยื่นคำร้อง ขอดูต้นฉบับสัญญากู้ศาลชั้นต้นคงจะได้พิเคราะห์เห็นความจำเป็นแล้ว จึงมีคำสั่งให้โจทก์ส่งใน ๓ วัน คือได้กำหนดเอาวันสุดท้ายของวันที่จำเลยจะต้องยื่นคำให้การเป็นวันส่ง แต่โจทก์ได้ส่งต้นฉบับพ้นกำหนดนั้นไปอีก ซึ่งทั้งนี้ไม่ใช่เป็นความผิดของจำเลยเลย กระนั้นจำเลยก็ได้รีบยื่นคำให้การหลังจากโจทก์ส่งต้นฉบับต่อศาลเพียง ๒ วัน พฤติการณ์แสดงว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และจำเลยก็ได้แจ้งถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การ ตามความใน ป.วิ.แพ่ง ม.๑๙๙ แล้ว
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรับคำให้การที่จำเลยยื่นไว้เป็นคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยต่อไป