คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายรับสืบก่อนขอแก้คำให้การก่อนวันชี้สองสถานศาลได้ส่งสำเนาให้โจทก์คัดค้านแล้ว ทั้งข้อความที่เพิ่มเติมก็ไม่มีอะไรใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ เพียงแต่ขยายข้อความเก่าให้ได้ความชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมก็เป็นการถูกต้องแล้ว
ภรรยาโจทก์เอาที่ไปขายฝากจำเลยไว้ โจทก์มาฟ้องอ้างว่าสัญญาขายฝากเป็นโมฆียะเพราะโจทก์ไม่ได้ให้ความยินยอม ถ้าปรากฎว่าเมื่อได้ทำสัญญาขายฝากแล้ว โจทก์กับภรรยาได้พากันไปหาจำเลยเพื่อขอเงินเพิ่มอีก แม้จำเลยจะไม่ยอมให้ก็ดี ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันแก่การขายฝาก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านางจันทร์หอมภรรยาของโจทก์ได้เอาที่โฉนดเลขที่ ๕๐๖๖ อันเป็นสินบริคณห์ไปทำนิติกรรมขายฝากจำเลยไว้โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์ จึงเป็นโมฆียะกรรม โจทก์จึงขอบอกล้าง ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาขายฝากกรรมสิทธิที่ดินดังกล่าวเป็นโมฆียะกรรมที่โจทก์ได้บอกล้างแล้ว และให้แก้ไขทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินในโฉนดที่ ๕๐๖๖ กลับเป็นชื่อของนางจันทร์หอมตามเดิม
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จะเป็นสามีของนางจันทร์หอมหรือไม่ไม่ทราบ แต่ขณะทำสัญญานางจันทร์หอมไม่มีสามีและเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อทำสัญญาขายฝากกันแล้วโจทก์กับนางจันทร์หอมได้ไปขอเพิ่มเงินจากจำเลยหลายครั้งแต่จำเลยไม่ให้ แสดงว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันแล้วจึงขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาคดีแล้ว ได้พิพากษาให้โจทก์แพ้คดีจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
เรื่องแก้คำให้การของจำเลย ๆ ขอแก้ได้ตามประมวลวิ.แพ่ง ม.๑๗๙ และการที่จำเลยขอแก้ก็มิได้เปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้อันเป็นสาระสำคัญประการใด เพียงแต่ขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น ทั้งจำเลยก็เป็นฝ่ายสืบก่อน โจทก์เป็นฝ่ายสืบแก้ ย่อมนำสืบแก้อย่างไรก็ได้ตามกระบวนพิจารณา ไม่ทำให้โจทก์เสียเปรียบได้อย่างไร ทั้งศาลก็ได้ส่งสำเนาให้โจทก์คัดค้านถูกถ้วนแล้วจึงแก้ได้
ข้อ๒. การที่โจทก์กับนางจันทร์หอมไปขอขึ้นเงินจากจำเลยอีก ๑๑,๐๐๐ บาท แสดงให้เห็นชัดว่าโจทก์ยอมรับรู้และมีความพอใจในนิติกรรมขายฝากนั้น จึงไปขอเพิ่มเงิน ถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบัน ถ้าหากโจทก์ถือว่าการขายฝากเดิมไม่สมบูรณ์จะไปขอเพิ่มเงินได้อย่างไร และการที่โจทก์จะได้เงินเพิ่มหรือไม่ได้เลยก็ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงผลในกฎหมาย จึงพิพากษายืน.

Share