แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตร อำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบ อำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจสมคบกันลักลอบเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นการพนันตามบัญชี ข. หมายเลข ๑๖ ท้าย พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ ฯลฯ เหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตร อำเภอป้อมปราบ จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษจำเลยและให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับกับริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔,๑๐,๑๒ พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ให้จำคุกจำเลย ๒ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาท ถ้าไม่มีเสียจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๘ ริบของกลางทั้งหมด กับให้จ่ายค่าสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ส่วนข้อกฎหมายที่จำเลยอ้างว่าฟ้องว่าเกิดเหตุที่ตำบลบ้านบาตร อำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเกิดเหตุที่ตำบลป้อมปราบ อำเภอป้อมปราบนั้น แม้จะแตกต่างตำบลกันจริง แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจังในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริงและอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง เห็นว่าไม่ใช่แตกต่างในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ตาม ป.วิ.อาญามาตรา ๑๙๒ วรรค ๒ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ แต่จำเลยเป็นหญิง เห็นสมควรให้รอการลงอาญาไว้ ฯลฯ
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บังคับคดีลงโทษจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด ๓ ปี ฯลฯ.