คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบาลตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รับฟ้องเฉพาะฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา ๑๑ ฐานเบิกความเท็จตามมาตรา ๑๕๕, ๑๕๖ กฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฐานเบิกความเท็จ
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยสาบาลตัวเลิกความต่อศาลว่า โจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการโดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีก็ตาม ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากันและไม่มีทางควรที่จะเข้าใจไปได้ว่านั่นไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแต่อย่างไร ฟ้องของโจทก์หาขัดต่อบทกฎหมายไม่
พิพากษายืน

Share