คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย ๆ อุทธรณ์คำสั่ง แต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์ และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษี จำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษี ดังนี้ประเด็นมีว่า สถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง ยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของโจทก์ ๆ อุทธรณ์คำสั่งแล้ว จำเลยที่ ๓ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยกอุทธรณ์และจำเลยที่ ๑ ได้ยึดทรัพย์โจทก์ จึงขอให้ศาลแสดงว่าสถานีบ่มใบยาของโจทก์ไม่ใช่ร้านค้า ไม่ต้องเสียภาษี และขอให้ถอนการยึด
จำเลยให้การว่า สถานีบ่มใบยาเป็นโรงค้าประเภทร้านค้า
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยาน และพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์คดีมาสู่ศาลฎีกา ๆ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และให้พิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โรงบ่มใบยาของโจทก์ไม่ใช่ร้านค้า ไม่ต้องเสียภาษี พิพากษาให้ถอนการยึด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่มีผู้พิพากษานายหนึ่งแย้งว่า ควรยกฟ้องโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ครั้งหนึ่งแล้วว่า ถ้าสถานีบ่มใบยาของโจทก์ไม่ใช่โรงค้าประเภทร้านค้าแล้ว ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลย ยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง และเห็นว่าสถานีบ่มใบยาของโจทก์ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษีตามมาตรา ๗๘ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๔๙๔ และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยภาษีโรงค้า พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๓ ส่วน พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ กำหนดความหมายของการขายของตามความหมายเดิมรวมถึงการขายผลิตภัณฑ์ซึ่งกินความหมายถึงกิจการสถานีบ่มใบยาของโจทก์ด้วย แต่เหตุเกิดขึ้นก่อน พ.ร.บ. ฉบับนี้ ไม่มีผลย้อนหลัง
พิพากษายืน

Share