คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สมคบกันโอนขายทรัพย์เพื่อป้องกันมิให้ทรัพย์ของลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้ยึดตามคำพิพากษามีผิดตามมาตรา 308

ย่อยาว

คดีได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ เรียกเงินตามสัญญากู้ จำเลยที่ ๑ ทำยอมต่อศาลขอผัดชำระเงินให้โจทก์ภายใน ๓ เดือน ระวางผัดใช้เงินจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นที่จำเลยที่ ๑ ได้ไปแจ้งต่อกรมการอำเภอว่าจะขายเรือน ๒ หลังกับครัว ๑ หลังซึ่งอ้างว่าเป็นของจำเลยเองให้แก่จำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นบุตร์เขยจำเลยที่ ๑ ความจริงเรือนแลครัวนั้นเป็นของจำเลยที่ ๑ กรมการอำเภอได้ประกาศโฆษณาตามระเบียบมีกำหนด ๑๕ วัน โจทก์จึงร้องคัดค้านว่าเรือนเป็นของจำเลยที่ ๑ ลูกหนี้โจทก์ แต่ภายหลังกลับถอนคำคัดค้านซึ่งแสดงว่าโจทก์ยินยอมโดยปริยายแล้วจำเลยได้กระทำไปโดยสุจริตไม่มีผิด
ศาลฎีกาเห็นว่าเรือนกับครัวรายพิพาทนี้เป็นของจำเลยที่ ๑ แลตามพฤตติการณ์แสดงให้เห็นว่าการโอนขายนี้จำเลยทั้ง ๓ คนได้รู้เห็นร่วมกันเพทุบายเพื่อป้องกันมิได้ทรัพย์ของลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้ยึดอันเป็นความผิดตามมาตรา ๓๐๘ แลข้อที่โจทก์ถอนการคัดค้านที่กรมการอำเภอนั้นย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยอย่างไร จึงพิพากษายืนตามศาลเดิมให้จำคุกจำเลยคนละ ๖ เดือน

Share