คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ได้ที่ดินมาโดยหลอกลวงให้เขาทำโอนยกให้ แล้วเอาไปขายให้ผู้อื่น ผู้ซื้อรับไว้โดยสุจริตแลโดยมีค่าตอบแทน ย่อมได้ที่นั้นเป็นกรรมสิทธิ นิติกรรมที่บุคคลวิกลจริตทำไปโดยคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งก็ทราบด้วยนั้น เป็นโมฆียะกรรมตาม ม.32

ย่อยาว

ได้ความว่า ฉ.เป็นบ้าวิกลจริตรักษาไม่หาย ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ผ.ไปทำสัญญาโอนที่นาให้แก่จำเลย โดยจำเลยหลอกลวง ฉ.ว่าจะกระทำกิจการอย่างหนึ่ง ภายหลังจำเลยโอนขายที่รายพิพาทนี้ให้แก่ ด. ๆ รับซื้อไว้โดยสุจริต
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่านิติกรรมการโอนที่นาเป็นโมฆียะตาม ม.๓๒-๑๒๑ ด.ได้รับไว้โดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริตตาม ม.๑๓๒๙ โจทก์ไม่อาจหักล้างได้ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตัดสินยืนตาม โดยวินิจฉัยว่าการที่โจทก์จะขอให้ทำลายการโอนโฉนดรายนี้ได้ก็ต่อเมื่อใบมอบฉันทะที่จำเลยได้มาจาก ฉ.เป็นโมฆะ แต่โจทก์ว่าได้มาโดยฉ้อโกงอันเป็นโมฆียะกรรม การใดที่บุคคลวิกลจริตทำไปนั้นก็หาเป็นโมฆะมาแต่เริ่มต้นไม่ ข้อที่โจทก์กล่าวว่าใบมอบฉันทะเสียเปล่านั้น เห็นว่าการที่จำเลยหลอกลวงเอาใบมอบฉันทะจาก ฉ.เป็นเพียงโมฆียะตามมาตรา ๑๒๑ เท่านั้นแลคดีนี้ศาลมิได้ชี้ขาดว่าได้มีการบอกล้างให้ตกเป็นโมฆะก่อนที่ ด.ได้รับโอน แต่ปรากฎว่า ด.ได้มาโดยสุจริตแลเสียค่าตอบแทน จึงต้องบังคับตาม ม.๑๓๒๙ การบอกล้างในภายหลังนี้จึงไม่ช่วยคดีโจทก์ได้

Share