คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขุดทำลายเจดีย์และลักเอาพระในเจดีย์นั้นไปมีผิดตามกฎหมายข้างบนวิธีพิจารณาอาชญา
พะยาน
สิ่งที่ศาลรู้เองเจดีย์สถานเป็นสิ่งที่ศาลรู้เองว่าเป็นที่เคารพในทางพระพุทธศาสนา คู่ความไม่ต้องนำสืบ ฎีกาอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวนเป็นปัญหากฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความตามโจทก์หาแลจำเลยรับโดยไม่มีการสืบพะยานกันว่า จำเลยกับพวกได้ขุดทำลายเจดีย์วัดพระศรีสรรพเพ็ชร์อันเป็นวัตถุโบราณสำคัญ กับลักพระต่าง ๆ ซึ่งบรรจุอยู่ใต้พระเจดีย์นั้นไปด้วย
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๑๗๒ – ๒๙๔ วางโทษจำคุก ๕ ปี แลลดตาม ม.๕๙ ให้กึ่งหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้ว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๒๙๔ ข้อ ๔ – ๓๒๕ ข้อ ๑ กำหนดโทษจำคุก ๒ ปี แลลดสารภาพเสียกึ่งหนึ่ง
โจทก์ฎีกาาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงบอกสำนวนว่าวัดพระศรีสรรพเพ็ชร์ไม่มีพระประธานแลไม่มีผิดใดสักการะบูชาจึงไม่นับว่าเป็นสถานที่บูชานั้นไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวนจริง แลแม้จำเลยจะมิได้รับแลโจทก์จะมิได้สืบให้ได้ความชัดในข้อ ที่ว่าวัดพระศรี ฯ ยังคงเป็นวัดที่มีพระประธาน+มีประชาชนไปทำการสักการะบูชาเป็นที่เคาพบในทางพุทธศาสนาอยู่ก็มี แต่ก็ได้ความชัดตามคำรับของจำเลยแล้วว่าได้ขุดทำลายเจดีย์ เจดีย์สถานเป็นสิ่งที่ศาลรู้ได้เองว่าจำเลยได้ทำลายวัตถุอันเป็นที่เคารพในทางพุทธศาสนาแลกระทำโดยอาการที่พึงเพ็นได้ว่าเป็นข้อหมิ่นประมาทแก่สาสนาแล้ว ไม่ต้องสืบจึงตัดสินยืนตามศาลเดิม

Share