คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับมฤดกร่วมกันคนหนึ่งยินยอมให้ผู้รับมฤดกอื่นขายที่ดินซึ่งตนมีส่วนจะได้รับให้แก่ผู้อื่นไปโดยได้ลงชื่อเป็นพะยานในการซื้อขายรายนี้แล้วก็ออกจากที่รายนี้ไปพฤตติการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะได้รับมฤดกในที่รายนี้
ป.พ.พ.ม.1382 บังคับแก่การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิดไม่จำกัดว่าจะมีหรือไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่

ย่อยาว

ได้ความว่าเดิมที่พิพาทรายนี้เป็นของนายเฟื่อง นางเท นายพรและจำเลยเป็นบุตร์นายเฟื่องต่างมารดากัน ครั้นนานเฟื่องวายชนม์ นางเท นายพรได้ทำหนังสือสัญญากันเองขายที่รายนี้ให้ขุนประชุม ฯ บิดาสามีโจทก์ จำเลยรู้เรื่องการขายและได้ลงชื่อเป็นพะยานด้วย เมื่อขุนประชุมวายชนม์ที่รายนี้เป็นมฤดกตกได้แก่สามีโจทก์และโจทก์ จำเลยได้ย้ายไปอยู่กับสามีโจทก์และโจทก์ สามีโจทก์และโจทก์ได้เคยพูดจะยกที่รายนี้ให้จำเลย ที่พิพาทรายนี้เป็นที่ ๆ ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ บัดนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ๆ ต่อสู้เถียงกรรมสิทธิ
ศาลฎีกาตัดสินว่า ที่รายนี้แม้จะเป็นของบิดาจำเลย และจำเลยมีส่วนจะได้แบ่งมฤดก เมื่อบิดาวายชนม์ด้วยก็ดี แต่พฤตติการณ์ที่จำเลยยินยอมให้นางเท นายพรขายที่รายนี้ให้ขุนประชุมฯ และออกจากที่ไป ย่อมทำให้จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทก็อ้างว่าโจทก์และสามีโจทก์ยกให้ซึ่งเป็นการรับรองกรรมสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทอีกชั้นหนึ่งจำเลยจะได้กรรมสิทธิก็แต่โดยอาศัยอำนาจการครอบครอง แต่ที่จำเลยคัดค้านว่าที่รายนี้ไม่มีหนังสือสำคัญจะยกมาตรา ๑๓๘๒ มาบังคับมิได้นั้นเห็นว่า กฎหมายมาตรานี้ไม่จำกัดว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีหนังสือสำคัญหรือไม่ เมื่อจำเลยครอบครองมายังไม่ครบ ๑๐ ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิจึงให้ขับไล่จำเลยออกจากที่รายพิพาทไป ฎีกาจำเลยให้ยก

Share