แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ยืมเงินชำระเงินโดยการโอนตั๋วสัญญา หนี้จะระงับเมื่อตั๋วนั้นได้ใช้เงินแล้ว วิธีพิจารณาแพ่ง พะยาน สืบแก้ไขเอกสารไม่ได้กู้เงินไป 1210 บาท จะเถียงว่าได้รับเงินเพียง 900 บาท ไม่ได้ แปลสัญญา ค่าธรรมเนียมคดีก็จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนให้ศาลเดิมสืบพะยานแลตัดสินใหม่ศาลอุทธรณ์ขั้นแรกไม่คืนให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้รวมทั้งต้นและดอกเบี้ยเป็นเงิน ๑๔๐๔ บาท แลในสัญญากล่าวว่าจำเลยได้รับเงินไปเสร็จแล้ว ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า (๑) ได้รับเงินไปเพียง ๙๐๐ บาท แล (๒) จำเลยได้สลักหลังแลโอนตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์เพื่อเป้นการผ่อนใช้หนี้ของจำเลยส่วนหนึ่ง ในที่สุดจำเลยยังเป็นหนี้โจทก์เพียง ๘๖ บาทเท่านั้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อต่อสู้ของจำเลยข้อ (๑) เป็นบทตัดสำนวนมิให้จำเลยนำสืบ ส่วนข้อ(๒) ปรากฎว่าโจทก์ยังไม่ได้รับชำระเงินตามตั๋วที่จำเลยโอน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผ่อนใช้หนี้ โจทก์คงถือตั๋วนั้นไว้เป็นประกันหนี้ และจำเลยเถียงในชั้นฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า เมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินอุทธรณ์ชั้นแรกของจำเลยให้ย้อนคดีให้ศาลเดิมสืบพะยานแล้วตัดสินใหม่ควรสั่งให้คืนค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ชั้นแรกแก่จำเลยนั้น เห็นว่าในที่สุดจำเลยก็แพ้คดีในชั้นอุทธรณ์อีก จำเลยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมขั้นอุทธรณ์ทั้งสิ้น จึงให้จำเลยให้ต้นเงินแลดอกเบี้ย แก่โจทก์ตามฟ้อง