คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2466

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สอบถามคำให้การ

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายสุราเถื่อนจำเลยทำคำให้การเปนลายลักษณอักษรปฏิเสธข้อหายื่นต่อศาล แต่ศาลไม่ได้สอบถามจำเลยให้รับรองคำให้การที่ได้ยื่นไว้ เป็นแต่สั่งว่าให้รับรวมเรื่องไว้เปนคำให้การ
ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา ร.ศ. ๑๑๕ มาตรา ๑๑ – ๑๒ ต้องถือเหมือนหนึ่งว่าจำเลยยังไม่ได้ให้การ แลการสืบพยานของศาลเปนอันใช้ไม่ได้ เพราะสืบก่อนมีคำให้การจำเลย จึงให้ศาลเดิมถามคำให้การจำเลยใหม่ สืบพยานแล้วตัดสินใหม่
โจทย์ฎีกาว่าจำเลยมิให้คัดค้านว่ายังไม่ได้ให้การต่อสู้คดี จำเลยยื่นคำให้การตามระเบียบ ทั้งจำเลยเองได้มาเบิกความประกอบคำให้การนั้นด้วย คำให้การนั้นใช้ได้ตามกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษสั่งเช่นนั้นยังไม่ถูกต้อง เพราะกฎหมายมิได้ห้ามขาดไม่ให้ศาลรับคำให้การของจำเลยเปนลายลักษณอักษร เมื่อศาลเห็นสมควรรับไว้แลยอมให้จำเลยสืบพยานจนสิ้นกระแสร์ความดังนี้ จะกลับมารื้อฟื้นว่ากล่าวอีกนั้น หาควรที่ไม่ ถ้าศาลมีเหตุสงสัยว่าคำให้การที่ยื่นจะไม่ใช่คำให้การของจำเลยหรือบกพร่องอยู่จะถามเสียก่อนก็ควร เรื่องนี้ศาลล่างไม่สงสัยแลตั้งแต่ต้นจนถึงชั้นฎีกา จำเลยไม่ได้คัดค้านว่าจำเลยยังไม่ได้ให้การ จึงไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้ย้อนไปพิจารณาใหม่ได้ตามมาตรา ๑๒ แห่งวิธีพิจารณาความอาญา ร.ศ. ๑๑๕ กล่าวแต่ว่า ถ้าจำเลยไม่ให้การฤาปฏิเสธฟ้อง ก็ให้ศาลถามซักไซร้ไล่เลียงต่างหาก เรื่องนี้จำเลยได้ให้การแก้คดีมีประเด็นแจ้งชัด ซึ่งคู่ความต่างสืบเอาประเด็นของตนแล้ว จึงให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษปฤกษาในท้องสำนวนใหม่

Share