คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อพนักงานอยัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีแล้วพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนเกี่ยกับเรื่องเดียวกันนั้นอีกได้ต่อเมื่อมีพะยานหลักฐานไหม่อันสำคัญแก่คดีซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ในกรณีที่มีการสอบสวนใหม่ภายหลังที่มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีแล้ว เมื่อโจทก์นำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลเป็นหน้าที่ของโจทก์จะก้องสืบแสดงว่าโจทก์มีหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดีจริงมิฉะนั้นลงโทษจำเลยมิได้อุทธรณ์ฏีกา ในคดีที่จำเลยผู้เดียวฎีกาคัดค้านคำพิพากษศาลอุทธรณ์ที่ให้ลงโทษจำเลย หลายคนในความผิดฐานเดียวกัน ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องฝดจทก์ตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาได้ถ้าเป็นเหตุอยู่ในลักาณคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้ง ๒ ฐานยอมให้ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าเล่นการพะนันไพ่โป๊กเกอร์ จำเลยจัดให้มีขึ้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยทั้ง ๒ คน ตาม พ. ร. บ. การพะนัน พ. ศ. ๒๔๗๘ ม. ๗ และ ๑๒
นายน้อยจำเลยผู้เดียวฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้ปรากฎตามหนังสือของกรมอัยยการอำเภอท่าตะเภาถึงพนักงานอัยยการว่า พนักงานอัยยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องจำเลยแล้ว แต่กรมการอำเภอท่าตะเภาได้สอบสวนเพิ่มเติมเห็นควรฟ้องจำเลยได้ ตาม ม. ๑๔๗ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญาอัยยการจึงฟ้องจำเลยเป็นคดีเรื่องนี้ เห็นว่าตาม ม. ๑๔๗ นั้นโจทก์จะต้องได้หลักฐานใหม่อันสำคัญจนถึงกับจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ โจทก์จึงจะฟ้องคดีได้ แต่เมื่อเรื่องนี้จำเลยได้คัดค้านมาแต่ต้นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตาม ม. ๑๔๗ จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องสืบแสดงว่าโจทก์มีหลักฐานใหม่อันสำคัญที่จะทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้อได้ แต่เมื่อโจทก์สืบแสดงไม่ได้จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย อนึ่งเรื่องนี้แม้นายน้อยจะฎีกามาแต่ผู้เดียว ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาไปถึงนายสินจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้นมาได้ ตาม ม . ๒๑๓ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยไป

Share