คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2471

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีเปนคู่สัญญาแต่ผู้เดียวภรรยาไม่มีสิทธิฟ้องร้องได้ เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษ สามีภรรยาอย่ากันเงียบ ๆ สัญญาทางพระราชไมตรีสยามกับอังกฤษ ค.ศ. 1926 ฎีกาได้แต่ปัญหากฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าตามสัญญา
จำเลยปฎิเสธว่าโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาและกล่าวต่อไปว่าสามีโจทก์ทำสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งให้จำเลยชำระค่าเช่าแก่เจ้าพนักงานศึกษาประชาบาล แล จำเลยได้ชำระไปเสร็จแล้ว
ศาลเดิมตัดสินยกฟ้อง อ้างว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง เพราะโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญา
ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้โจทก์ชะนะ
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงดังนี้
( ๑ ) เมื่อก่อนโจทก์ได้ ค. เปนสามี ค. ได้กู้เงินจากเจ้าพนักงานศึกษาประชาบาล ต่อมา ค. ได้โจทก์เปนภรรยา
( ๒ ) ค. ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากับจำเลยโจทก์ก็รู้เห็นยินยอมด้วย ภายหลัง ค. ทำสัญญากับ จำเลยโอนการชำระค่าเช่าให้เจ้าพนักงานศึกษาประชาบาล ก่อนทำสัญญาโอนการชำระค่าเช่านี้ประมาณ ๑ เดือน โจทก์กับ ค. ได้ตกลงอย่างกัน แต่ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์ แลไม่มีพยานหลักฐานแสดงว่าจำเลยหรือเจ้าพนักงานรูการอย่างนี้ ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องโจทก์ เพราะโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาแลโจทก์ฟ้องคดีโดยอาสัยสัญญาฉบับแรก แต่ปฎิเสธสัญญาฉบับหลัง เมื่อไม่ได้แจ้งการอย่าเช่นนี้ ย่อมปิดปากมิให้โจทก์ปฎิเสธสิทธิของ ค. ในการทำสัญญาฉบับปลังแลจำเลยก็ได้ใช้เงินไปโดยสุจริต

Share