คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+คืออาญาการ พิจารณาและสืบพะยานในศาลให้ทำ+เปิดเผยต่อหน้าจำเลย+จำเลยป่วยและศาลได้+การพิจารณามาหลาย++เป็นเวลาเกือบ 1 ปี แล้ว จำเลยก็ยังไม่หายไม่+จะมาศาลได้ ศาล + จำหน่ายคดีเสียชั่วคราวได้ +ศาลสั่งจำหน่ายคดีเสีย+เพราะจำเลยเจ็บ+ศาลไม่ได้ ไม่จำ+จำเลยวิกลจริตแม้+เจ็บป่วยอย่างอื่นซึ่งไม่+จะมาศาลได้ ก็สั่ง+ได้+จำเลยหลายคนจำเลย+เจ็บไม่สามารถมาศาล+จำหน่ายคดีได้ฉะเพาะ+ที่เจ็บนั้นเท่านั้นส่วน+ก็ดำเนินการพิจารณา+กระบวนความ

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามทำร้ายร่างกายและทำอนาจาร ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ ๒ ป่วยต้องเลื่อนการ พิจารณามาหลายคราวจนเกือบปีหนึ่งแล้วจำเลยที่ ๒ ก็ยังไม่หายป่วยมาศาลไม่ได้ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงสั่งให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว เมื่อจำเลยที่ ๒ หายป่วยจึงให้โจทก์นำสืบมาว่ากล่าวต่อไป
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาอาญามาตรา ๑๗๒ บัญญัติว่า การพิจารณาสืบพะยานในศาลให้ทำต่อหน้าจำเลย คดีนี้เมื่อจำเลยที่ ๒ ป่วยมาศาลไม่ได้จะทำการพิจารณาสืบพะยานลับหลัง จำเลยที่ ๒ ไม่ได้ แต่ยังมี จำเลยที่ ๑ ซึ่งมิได้เจ็บป่วยเป็นจำเลยรวมอยู่ด้วยอีกคนหนึ่งจะจำหน่ายคดีเสียทั้งหมดยังไม่ชอบ จึงพิพากษาแก้ ศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีฉะเพาะจำเลยที่ ๒ แต่ผู้เดียว ส่วน จำเลยที่ ๑ ให้ดำเนินการ พิจารณาต่อไป
โจทก์ฎีกาต่อมาศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ที่สั่งให้จำหน่ายคดีฉะเพาะจำเลยที่ ๒ เราะในคดีอาญาศาลจะ พิจารณาสืบพะยานลับหลังจำเลยมิได้ส่วนจำเลยที่มาศาลได้และไม่มีความจำเป็นประการอื่นศาลก็ต้อง พิจารณาต่อไปอนึ่งการที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเพราะจำเลยเจ็บป่วยมาศาลไม่ได้นั้น ไม่จำต้องเป็นเรื่องวิกลจริตแม้เจ็บป่วยอย่างอื่นมาศาลไม่ได้ ศาลก็สั่งจำหน่ายเสียได้ชั่วคราวเพื่อมิให้ค้างบัญชี ในข้อที่ โจทก์ฎีกาว่า ถ้าศาลสั่งจำหน่ายแล้วก็ควรต้องสั้งจำหน่ายคดีที่โจทก์ถูกอัยยการฟ้องและศาลพิจารณารวมกับคดีนี้เสียด้วยเพราะเป็นมูลกรณีเดียวกัน นั้นก็เห็นว่าไม่มีข้อห้ามหรือความจำเป็นที่จะต้องงดเว้นหรือจำหน่ายตามกันไปด้วย เมื่อศาลมีอำนาจ พิจารณาได้ก็ต้องพิจารณาไป จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share