คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องอุทธรณ์ทุกฉะบับต้องรุบุข้อเท็จจริงโดยย่อ++ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงยื่นฟ้องอุทธรณ์โดยให้ถือเอาข้อความตามคำแถลงปิดสำนวนเป็นข้ออุทธรณ์นั้นเป็นฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่+ด้วยประมวลวิธีพิจารณาความ ม. 225,193, ฟ้องอุทธรณ์เช่นนี้ ศาลไม่รับพิจารณา อ้างฎีกาที่ 529/2479

ย่อยาว

คดีนี้ศาลจังหวัดสมุทรสงครามตัดสินลงโทษจำเลยทั้งสามฐานกระทำอนาจารตามมาตรา ๒๔๖ จำเลยอุทธรณ์ โดยขอให้ ศาลถือเอาข้อความตามคำแถลงปิดสำนวนของจำเลยเป็นข้อฟ้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งว่าฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อยหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๓ ไม่รับฟ้องอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงมาเลย จะให้ถือเอาคำแถลงในศาลชั้นต้นมาเป็นฟ้องอุทธรณ์หาได้ไม่ เรื่องเช่นนี้ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษา ฎีกาที่ ๕๒๙/๒๔๗๙ แม้คดีนั้นจะเป็นคดีแพ่งก็ดีหลักพิจารณาในเรื่องนี้สำหรับคดีอาญาหาแตกต่างกับคดีแพ่งไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๒๕ กับ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๓ ได้บัญญัติความไว้เช่นเดียวกัน จึงพิพากษายืนตามคำสั่งศาลอุทธรณ์

Share