คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศสมุหเกศาภิบาลว่าป่าที่ใดเป็นเขตต์หวงห้ามตัดไม้ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง+เมื่อ โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องก็ไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบในข้อนี้ คดีเช่นนี้ศาลต้องยกฟ้อง กล่าวในฟ้องว่า จำเลยตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสียค่าภาคทบวงเท่านั้น ยังไม่พอจะทำให้เข้าใจได้ว่าป่าที่ตัดไม้นั้นเป็นเขตต์หวงห้าม อ้างฎีกา ที่ 1525/2482

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตัดฟันไม้ยางซึ่งเป็นไม้ประเภทหวงห้ามในป่าตำบลบางประมุง โดยมิได้รับอนุญาตและเสียค่าภาคหลวง ขอให้ลงโทษตาม พรบ รักษาป่า พ.ศ. ๒๔๕๖ กฎข้อบังคับวางระเบียบจัดการรักษาป่า พ.ศ. ๒๔๕๖ ประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ ประกาศสมหเทศาภิบาลมณฑลนครสวรรค์ลงวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าป่าตำบลบางประมุงที่จำเลยตัดไม้นั้นเป็นเขตต์หวงห้าม เมื่อโจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องก้จะปรับเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยไม่สืบพะยาน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยตัดไม้ยางซึ่งเป็นไม้ประเภทหวงห้ามในป่าบางประมุงเป็นตำบลที่หวงห้ามไม้ยางพิพากษาให้ ศาลชั้นต้นสืบพะยาน โจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามพระราชบัญญัติรักษาป่า พ.ศ. ๒๔๕๖ ม. ๕ ข้อ ๑ และกฎข้อบังคับวางระเบียบวิธีจัดการรักษาป่า พ.ศ. ๒๔๕๖ ข้อ ๒ และ ข้อ ๑๗ นั้น โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องให้เป็นที่เข้าใจได้ชัดเจนว่า จำเลยได้ตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากป่าซึ่งสมุหเทศาภิบาลได้ประกาศเป็นเขตต์หวงห้ามแล้ว และประกาศสมุหเทศาภิบาลเป็นข้อเท็จจริงสำคัญซึ่งโจทก์จะต้องกล่าวบรรยายมาในฟ้อง เมื่อโจทก์ก็ไม่ได้กล่าวให้ปรากฏในฟ้อง ก็ไม่ประเด็นที่โจทก์จะขอสืบในข้อนี้ คดีจึงฟังไม่ได้ว่าสมุหเทศาภิบาลได้ประกาศโฆษณาให้ราษณร์ในท้องที่ซึ่งโจทก์หานั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓ เดือนเมื่อโจทก์สืบไม่ได้เช่นนี้ ก็เป็นอันฟังไม่ได้ว่าได้ประกาศเป็นเขตต์หวงห้ามอัน จำเลยจะพึงมีผิด พิพากษายกฟ้องตาม ศาลชั้นต้น

Share